ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนเคยได้รายงานไปแล้วว่าทางบริษัท Bx หรือ Bitcoin Co. Ltd. Thailand อดีตเว็ปเทรดคริปโตอันดับหนึ่งของคนไทยกำลังสร้างออฟฟิศใหม่แถว ๆ ย่านรามอินทรา
แต่ทว่าหลังจากนั้นประมาณ 1-2 เดือนต่อมาทาง Bx.in.th ได้ประกาศปิดตัวเว็ปลงแบบสายฟ้าแล่บ ซึ่งทำให้หลาย ๆ คนต่างงงงวยไปตาม ๆ กัน และในตอนนี้ เวลาผ่านไปหลายเดือนแล้ว ดูเหมือนว่าออฟฟิศของ Bx นั้นก็ยังเปิดให้บริการตามปกติ
โดยก่อนที่ Bx.in.th จะปิดตัวลงไปนั้นบริษัทได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ว่า “พวกเขาหมด Passion ในการทำงานและก็ต้องการที่จะไปหาโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ ๆ” ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้หลายคนต่างคาดเดากันว่ามันอาจจะเป็นการเปิดตัวโปรเจคใหม่ของพวกเขา ? และอาจวางแผนที่จะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้หรือเปล่า ?
เหตุการณ์การปิดตัวลงของ Bx.in.th ได้ปิดฉากอย่างสวยงามและเวลาก็ได้ล่วงเลยผ่านมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ในขณะที่ช่วงสิ้นปี 2019 กำลังใกล้เข้ามาทุก ๆ ที ในขณะเดียวกันเราก็ได้ค้นพบว่าออฟฟิตของ Bx ยังคงเปิดให้บริการอยู่ปกติ ไม่ได้ย้ายหนีไปไหน นอกจากนี้บริษัทยังได้ติดป้าย ‘Bitcoin’ ไว้เช่นเดิม ด้วยเหตุนี้เราจะตั้งข้อสังเกตุได้ว่า Bx อาจจะมีโปรเจคใหม่ในอนาคตที่จะมาเซอร์ไพรสนักลงทุน Bitcoin ทุกคนและเราเองก็สามารถคาดเดาได้เลยว่ามันอาจจะเกี่ยวกับ Bitcoin และ คริปโตเคอเรนซี่
อย่างไรก็ตาม ทางสยามบล็อกเชนได้มีโอกาสสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท Bx ว่าพวกเขากำลังมีแพลนที่จะกลับมาเปิดเว็บใหม่ในอนาคตหรือไม่ :
Siam Blockchain – ไม่ทราบว่าทางเว็บ Bx มีแพลนที่จะกลับมาเปิดเว็บเทรดในอนาคตไหมครับ
Bx.in.th – ตอนนี้ยังไม่มีครับ”
กระดานซื้อขาย Bx.in.th นั้นได้เปิดให้บริการครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนของปี 2014 โดยนาย David Barnes โดยถือเป็นอดีตเว็บกระดานซื้อขาย cryptocurrency เว็บแรกสุดของประเทศไทยที่มีโวลลุ่มการซื้อขายต่อวันมากที่สุดในประเทศ
ปัจจุบันอ้างอิงข้อมูลจาก Google Map เผยว่าออฟฟิศที่พวกเขากำลังใช้งานอยู่ในขณะนี้ อยู่ที่ซอยรามอินทรา 89 ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้เปิดให้บริการเว็บให้บริการเทรด Bitcoin แล้ว แต่ก็ยังมีการเปิดออฟฟิศ และจ้างพนักงานมาทำงานตามปกติ
นอกจากนี้ Bx นั้นเป็นเว็บไซต์ที่เคยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต. โดยถูกกฎหมายอีกด้วย
ความไม่แน่นอนของวงการคริปโตในประเทศไทยมักเกิดขึ้นมาอย่างน่าตกใจเสมอ ซึ่งในปี 2020 เราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ระบบดั้งเดิมในประเทศหรือเว็ปเทรดใหม่ ๆ ที่มีสภาพคล่องสูงขึ้น ซึ่งเราจะคงต้องรอดูกันต่อไปว่าในปีหน้านี้จะมีอะไรที่เข้ามาทำให้เราเซอร์ไพรสอีกได้บ้าง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น