<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อัตราการใช้ Stablecoin ในร้านสะดวกซื้อในเกาหลีใต้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปริมาณการซื้อขายของเหรียญคริปโตซึ่งเป็น Stablecoin จากประเทศเกาหลีอย่าง Terra หรือเหรียญ KRT นั้นได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วงเพียงหนึ่งวันที่ผ่านมา โดยได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 280% จากในวันก่อนหน้า กรณีการใช้งานของเหรียญดังกล่าวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนี้อาจแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของความนิยมใช้งานเหรียญคริปโตซึ่งอาจเข้ามาแทนที่การใช้เงินจริงได้ในเร็วๆ นี้นั่นเอง

โดยภาพรวมแล้ว เหรียญคริปโตนั้นไม่สามารถสร้างความสนใจให้กับเหล่าคนทั่วเพื่อให้หันมาใช้งานเหรียญคริปโตในฐานะสื่อกลางสำหรับการแลกเปลี่ยนทางการเงินได้มากพอเนื่องจากเหตุผลหลายประการ โดยหนึ่งในเหตุผลหลักนั้นคือการที่ราคาของเหรียญคริปโตเหล่านี้นั้นมีความผันผวนที่สูงมาก หรืออาจจะเป็นเหตุผลซึ่งมีความสำคัญรองลงมาอย่างความเคยชินของผู้คนในเครือข่ายที่ไม่สะดวกสบายกับสิ่งที่ใช้งานอยู่มากพอแล้ว 

เมื่อพิจารณาเป้าหมายของการสร้างเหรียญคริปโตขึ้นมานั้นชัดเจนว่าเป็นการสร้างขึ้นเพื่อให้ถูกนำไปใช้ในการเป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกับเงินตรา แต่หากรูปแบบของการใช้งานดังกล่าวไม่เป็นที่นิยมท่ามกลางคนหมู่มากเนื่องจากความสะดวกสบายและความเคยชินดังกล่าวแล้วนั้น การที่เหรียญคริปโตดังกล่าวนั้นไม่ถูกนำไปใช้ก็เป็นเสมือนกับดักที่ถูกสร้างโดยตัวเหรียญเอง

อย่างไรก็ตาม เหรียญ Stablecoin ใหม่ๆ อย่างเช่น Terra (KRT) นั้นได้ถูกสร้างขึ้นโดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยโครงการดังกล่าวนั้นได้ทำความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างการนำไปใช้งานในวงกว้างของเหรียญกับผลลัพธ์ในแง่บวกต่อเครือข่าย ดังนั้นแล้วจึงออกมาเป็นเหรียญ KRT ซึ่งราคาของเหรียญดังกล่าวนั้นมีความเสถียรมากขึ้น รวมทั้งยังมีการออกเหรียญเพิ่มเติมตามการเติบโตของตลาด อีกทั้งเหรียญดังกล่าวนั้นยังมีแผนการพัฒนาที่ชัดเจนอีกด้วย 

“เนื่องจากมูลค่าของสกุลเงินคริปโตในฐานะที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนนั้นขึ้นอยู่กับผลกระทบของเครือข่าย ซึ่งเหรียญคริปโตนั้นจะประสบความสำเร็จได้ก็จากการผลักดันให้มีการใช้งานเหรียญในเครือข่ายไปสู่จุดสูงสุดได้นั่นเอง”

สำหรับเหรียญ Terra นั้นได้มีแนวคิดเบื้องหลังเป้าหมายดังกล่าวในการนำเสนอตัวเลือกที่มีความเป็นธรรมมากขึ้นให้แก่ผู้บริโภค โดยเหรียญดังกล่าวนั้นมีอัตราค่าธรรมเนียมที่ต่ำและมีอัตราผลตอบแทนการขุดเหรียญที่มีความสม่ำเสมอโดยที่ยังคงเป็นที่ยอมรับจากเหล่าผู้ให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตต่างๆ อยู่นั่นเอง

รายละเอียดสำหรับเหรียญ Terra นั้น เหรียญดังกล่าวเป็นเหรียญที่พึ่งจะถูกสร้างขึ้นได้ไม่นาน โดยเหรียญดังกล่าวนั้นได้มีการปล่อยรายละเอียดโครงการอย่างเป็นทางการหรือ White Paper ออกมาในช่วงเดือนเมษายนของปีที่ผ่านมา

ทางทีมพัฒนาของโครงการเหรียญดังกล่าวนั้นได้ดำเนินการนำเสนอเป้าหมายการพัฒนาเหรียญดังกล่าวเพื่อให้เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนแทนเงินตรา โดยหนึ่งในผลลัพธ์ของการดำเนินการดังกล่าวนั้นคือการที่เหรียญดังกล่าวประกาศถึงความร่วมมือระหว่างโครงการดังกล่าวกับบริษัทร้านค้าปลีกอย่าง CU ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทรายใหญ่ในตลาดนี้ซึ่งมีหน้าร้านกว่า 13,500 แห่งทั่วประเทศ 

ในการดำเนินการดังกล่าวนั้น นาย Do Kwan ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งโครงการได้กล่าวย้ำถึงความท้าทายสำหรับการดำเนินการร่วมกับเหล่าร้านค้ารายย่อยต่างๆ นี้ว่าอุปสรรคส่วนใหญ่แล้วคือความผันผวนที่เกิดขึ้นกับสกุลเงินคริปโตซึ่งอาจทำให้ผู้ค้าหลายรายนั้นลังเลหรือแม้แต่ปฏิเสธความร่วมมือกับโครงการเหรียญคริปโตต่างๆ

แต่สำหรับโครงการเหรียญ Terra นั้นได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยการยื่นข้อเสนอในการให้ความร่วมมือจากบริษัทอย่าง CU โดยแลกเปลี่ยนกับระบบที่มีความปลอดภัยและมีเสถียรภาพ ซึ่งทางบริษัท CU เองนั้นก็จะดำเนินการใช้งานระบบการชำระเงินโดยอาศัยสกุลเงินคริปโตผ่านแอพลิเคชั่นในชื่อ “Chai” ของทางโครงการในช่วงสิ้นปีนี้นั่นเอง

นอกจากนี้แล้วทิศทางการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการจับจ่ายใช้สอยนั้นยังคงมุ่งเข้าสู่สังคมไร้เงินสดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยการนำสกุลเงินคริปโตเข้ามาใช้งานนั้นก็เป็นหนึ่งในการรูปแบบการดำเนินการซึ่งตอบสนองต่อทิศทางการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั่นเอง

หนึ่งในนักเขียนทางด้านเทคโนโลยีอย่างนาย Tim Ventura นั้นยังได้กล่าวเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตว่าเป็นขั้นสุดท้ายของการพัฒนาเงินแบบเสมือนหรือเงินดิจิทัลซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งได้ โดยเค้ายังได้กล่าวบางส่วนไว้ดังนี้

“สกุลเงินคริปโตนั้นเป็นเหมือนกับก้อนภูเขาน้ำแข็งซึ่งบนผิวหน้านั้นเราอาจจะเห็นข่าวหรือเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการคาดการณ์ราคาวันต่อวัน หรือแม้แต่ผลกำไรหลากหลายรูปแบบ แต่ลึกลงไปนั้นคือกลุ่มสังคมซึ่งมีความเห็นร่วมกันถึงการต่อต้านระบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและต่างพยายามที่จะสรรหาหนทางที่ดีกว่า ซึ่งสกุลเงินคริปโตนั้นเคยเป็น และยังเป็นหนทางสำหรับแก้ปัญหาดังกล่าวสำหรับหลายๆ คน”

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ในปัจจุบันนี้โครงการเหรียญคริปโตนั้นเกิดขึ้นมากมาย ทั้งจากทางภาคเอกชนและทางภาครัฐ ดังนั้นแล้วคงอดไม่ได้ที่เราจะตั้งคำถามว่าแล้วสกุลเงินคริปโตแบบไหนกันแน่ที่ในที่สุดแล้วจะกลายเป็นผู้ชนะในตลาดนี้ในการถูกนำไปใช้งานอย่างกว้างขวาง

ในขณะที่หลายคนอาจนึกถึงเหรียญซึ่งครองตลาดอยู่ในขณะนี้อย่าง Bitcoin ความเห็นจากนาย Kenny Li ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง Worthyt นั้นยังได้แสดงออกถึงปัญหาสำคัญของเหรียญดังกล่าวที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันว่าเหรียญนั้นยังติดปัญหาด้านการเพิ่มอัตราการดำเนินธุรกรรมในระบบ รวมถึงปริมาณการใช้พลังงานที่มากมายมหาศาลในการคงระบบไว้ ซึ่งได้มีบางส่วนดังนี้

“เหรียญดังกล่าวนั้นได้กลายเป็นบรรทัดฐานของคุณสมบัติของสกุลเงินคริปโตซึ่งปราศจากการควบคุมโดยส่วนกลาง อีกทั้งในความเป็นจริงนั้นตัวเหรียญดังกล่าวยังเป็นเครื่องยืนยันว่าหลักการดังกล่าวนั้นสามรถเป็นไปได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามในช่วงกว่าสิบปีที่ผ่านมา แม้ว่าเหรียญ Bitcoin นั้นจะเป็นการทดลองสำคัญสำหรับการพัฒนาสกุลเงินคริปโต แต่ในที่สุดแล้วมันก็ยังคงไม่ใช่คำตอบสำหรับการแก้ปัญหาอยู่นั่นเอง”

ดังนั้นแล้วเหรียญอย่าง Terra ซึ่งได้ตั้งเป้าที่จะนำหน้า Bitcoin โดยเฉพาะในการเป็นระบบการชำระเงินที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปนั้น เรายังคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าเหล่าร้านค้ารายย่อยที่ได้เข้าร่วมมือกับโครงการดังกล่าวนั้น ผลสุดท้ายแล้วจะออกมาในรูปแบบไหนกันแน่

ที่มา : Newsbtc

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น