CEO ของ Coinbase นาย Brian Armstrong ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าคลื่นลูกใหม่ของกลุ่มคนที่จะเข้ามาใช้งานคริปโตเคอเรนซี่ (Wave of Adoption) จะมีมากถึง 100 ล้านคนขึ้นไปอีกทั้งยังไม่สนใจเกี่ยวกับว่าสินทรัพย์ดังกล่าวนั้นจะอยู่ในระดับชั้นใดก็ตามอีกด้วย
“คนกลุ่มใหม่อีกกว่า 100 ล้านคนจะเข้าสู่โลกของคริปโตเคอเรนซี่พวกเขาจะไม่ได้เข้ามาจากความสนใจในคริปโตเคอเรนซี่เหมือนอย่างในตอนเริ่มแรกเดิมที่ แต่พวกเขาจะเข้ามาด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเขาต้องการเล่นเกมบางอย่าง หรือใช้งาน decentralized social network ใช้ชีวิต และใช้คริปโตเคอเรนซี่เป็นเพียงส่วนนึงของแอพพลิเคชั่นดังกล่าวเท่านั้น”
นอกจากนี้แล้วนาย Armstrong ยังได้บอกอีกด้วยว่าจะมีโครงการ Starup ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อหรือมีส่วนประกอบที่จำเป็นต้องใช้คริปโตเคอเรนซี่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวเนื่องด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย ยกตัวอย่างเช่นการหาเงินระดมทุนจากการใช้คริปโตเคอเรนซี่ หรือทำการตลาดในระดับนานาชาติก็ดูจะจำเป็นไม่น้อยสำหรับ Starup หน้าใหม่
“ผมเชื่อว่าภายในสิ้นปี 2020 ทุก ๆ Startup ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีหรืออื่น ๆ จะต้องมีบางส่วนที่นำคริปโตเคอเรนซี่ไปประกอบการใช้งานอย่างแน่นอนแบบไม่ต้องสงสัย”
ซึ่งแน่นอนว่าการเติบโตหลังจากนี้ที่โลกของคริปโตเคอเรนซี่ได้ผ่านการพิสูจน์มาแล้วระดับนึงนั้นยอมทำให้ผู้ที่มาทีหลังเห็นลู่ทางและบทเรียนมา นอกจากนี้ผู้ที่อยู่มาก่อนก็จะมีประสบการณ์ในการทำงานและรันวงการได้ดียิ่งกว่าเดิม ทำให้หลังจากนี้เราจะได้เห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดแบบหยุดไม่อยู่ (Snowball) ก่อนกับคริปโตเคอเรนซี่
“ในที่สุดสถาบันการเงินทุกแห่งจะเปิดให้บริการที่เกี่ยวของกับสกุลเงินดิจิตอลและเงินส่วนใหญ่จะถูกเก็บเป็นสินทรัพย์ของพวกเขาไว้ในสกุลเงินดิจิตอลบางส่วนเนื่องจากผลตอบแทนที่ไม่เกี่ยวข้อง บางสิ่งเช่น 90% ของเงินในโลกจะถูกเก็บอยู่ในสถาบันดังนั้นสิ่งนี้จะทำให้เกิดความต้องการสินทรัพย์อย่างคริปโตเคอเรนซี่ขึ้นอีกจำนวนมาก”
สิ่งที่นาย Armstrong เชื่ออีกอย่างเลยก็คือในทศวรรษต่อจากนี้จะเป็นก้าวย่างครั้งสำคัญในการกำหนดโครงสร้างของคริปโตเคอเรนซี่ต่าง ๆ ที่จะออกโดยธนาคารกลางของหลาย ๆ ประเทศ ยกตัวอย่างเช่น หยวนดิจิตัลของจีนที่ก็ใกล้จะสำเร็จเต็มที่และพร้อมเปิดใช้งานในเร็ว ๆ นี้แล้วจนหลายประเทศต่างต้องเร่งพัฒนาเป็นของตัวเองตามแบบอย่างพี่เจน
หรือการทำตะกร้าเงินอย่าง Libra, Centre และ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ทั้งหมดนี้จะยิ่งช่วงเร่งให้เกิดเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ขึ้นในโลกของคริปโตเคอเรนซี่หลังจากนี้
“เมื่อเราเห็น Blockchain เริ่มมีการปรับปรุงความสามารถ ความรวดเร็ว และขนาดในการส่งคำสั่งของมัน ต่อจากนี้เราจะได้เห็นแอปพลิเคชั่นใหม่ ๆ เกิดขึ้นและพัฒนาอย่างรวดเร็วจนสุดท้ายมันจะได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมในที่สุดครับ”
มุมมองของนาย Armstrong นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นมุมมองที่น่าสนใจพอสมควร หากแต่อนาคตนั้นเป็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันต่อไป
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น