ในสัปดาห์นี้ราคา Bitcoin ได้พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงและก็ร่วงลงอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน โดยเราจะเห็นได้ว่าราคาได้พุ่งขึ้นมาเกือบแตะระดับ $8,500 ก่อนที่จะชนแนวต้านสำคัญและร่วงลงมาสู่อยู่ที่ระดับ $8,100-8,200
อย่างไรก็ตามหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศตอบโต้อิหร่านด้วยวิธีทางเศรษฐกิจและขอไม่เลือกใช้วิธีตอบโต้ด้วยความรุนแรง ราคา Bitcoin ก็ได้ร่วงลงอย่างรวดเร็วอีกครั้งสู่ระดับต่ำสุดที่ $7,640 อีกครั้ง ก่อนที่จะแตะแนวรับแล้วดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ $8,100
หลังจากเริ่มต้นช่วงปีใหม่มาได้ไม่ถึง 10 วัน ราคา Bitcoin ก็ได้เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างยอดเยี่ยม โดยเป็นการเพิ่มขึ้นมากว่า 15% ในเดือนนี้
ไม่เพียงแต่สินทรัพย์คริปโตเท่านั้นที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ทรัพย์สินปลอดภัยอื่น ๆ อย่างเช่น ทองคำและน้ำมัน ก็ได้เติบโตเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยทองคำได้พุ่งแตะระดับสูงสุดเดิมนับตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2013 และน้ำมันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 2.5% อยู่ที่ประมาณ $ 70 ต่อบาร์เรลในช่วงที่มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้น
ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า Bitcoin นั้นมีความคล้ายคลึงทรัพย์สินปลอดภัยตัวอื่น ๆ เช่นเดียวกับทองคำและน้ำมัน ในขณะที่สถานการณ์ทางเมืองและความไม่แน่นอนนั้นจะส่งผลกระทบต่อราคาของมันอย่างชัดเจน
Bitcoin กำลังจะกลายเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับชาวอิหร่าน
ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทำให้ชาวอิหร่านต้องเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็แน่นอนว่าตอนนี้ชาวอิหร่านกำลังหันมาสนใจในทรัพย์สินทางเลือกเช่น Bitcoin
สำหรับนักลงทุนชาวอิหร่านส่วนใหญ่นั้นมักจะซื้อ Bitcoin เพื่อการลงทุนระยะยาวและหลีกเลี่ยงสถานการณ์ความไม่แน่นอนในปัจจุบัน ถึงแม้ว่า Bitcoin จะไม่ได้รับความนิยมเทียบเท่ากับสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ หรือโลหะมีค่าเช่นทองคำหรือเงินก็ตาม
ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ Bitcoin นั้นกลายเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับชาวอิหร่าน ก็เพราะชาวอิหร่านส่วนใหญ่นั้นมักจะไม่มีบัญชีธนาคารระหว่างประเทศ ดังนั้นพวกเขาจึงนิยมหันมาใช้ กระเป๋า Bitcoin เพื่อทำธุรกรรมข้ามพรมแดนสำหรับการโอนและรับเงินของพวกเขา ซึ่งมันสะดวกและรวดเร็วมากกว่าบัญชีธนาคารในปัจจุบันมากนัก
วิธีแลกเปลี่ยน Bitcoin ส่วนใหญ่ที่ชาวอิหร่านนิยมใช้ในปัจจุบันก็คือ วิธีการเปลี่ยนแบบ Peer to Peer เช่น การแลกเปลี่ยนผ่านทางเว็ปไซต์ localbitcoins.com ซึ่งตอนนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก
นับตั้งแต่ที่อิหร่านต้องเผชิญกับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลสหรัฐในปี 1979 มูลค่าของค่าเงิน ‘เรียล’ อิหร่านก็ได้ร่วงลดลงอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งนี่คือสาเหตุว่าทำไมอิหร่านถึงหันมามองสกุลเงินทางเลือกอย่าง Bitcoin ด้วยความสามารถของมันในเรื่องความโปร่งใส , เก็บมูลค่าได้ , รวดเร็ว , ค่าธรรมเนียมถูก และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่มันจะได้รับความนิยมในประเทศที่กำลังเกิดวิกฤต
นอกจากประเทศอิหร่านแล้วเราจะเห็นได้ว่าประเทศอื่น ๆ ที่กำลังตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองอย่างเช่น ประเทศเวเนซูล่า , อาร์เจนติน่า และ ฮ่องกง ซึ่งประเทศเหล่านี้ล้วนแต่เป็นตัวอย่างที่เรามองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า Bitcoin และสกุลเงินคริปโตนั้นคือทางออกของปัญหาของพวกเขา
ที่มา : cointelegraph
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น