ในทวีปเอเชียมีการพัฒนา ร่าง แก้ไขกฎหมายเพื่อกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลขึ้นมาจำวนมาก ทวีปเอเชียได้กลายเป็นทวีปที่เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล และแนวโน้มในปี 2020 นี้ทวีปเอเชียจะเป็นผู้นำด้านสินทรัพย์ดิจิทัลก่อนทวีปฝั่งจะวันตกที่กำลังจมอยู่กับระบบของตัวเอง
อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีนั้นเติบโตมาได้ประมาณสิบกว่าปีแล้วและยังคงมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นอีกเรื่อยๆ ในขณะที่ฝั่งทวีปตะวันตกมักจะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีและบล็อกเชนมันกลับไม่เป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาที่มีแนวโน้มว่าจะล้าหลังกว่าใครเพื่อน
ผู้นำด้านอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีในเอเชีย
ในทวีปเอเชียมีหลายประเทศมากๆ ที่เริ่มพัฒนาตลาดคริปโตเคอร์เรนซี เช่น สิงคโปร์ ซึ่งก็ได้มีบริษัทฟินเท็คเข้ามาก่อตั้งบริษัทในประเทศอยู่หลายบริษัทด้วยกัน กฎหมายบริการด้านการเงินก็กลายเป็นกฎหมายที่นำมากำกับดูแลคริปโตเคอร์เรนซีและบล็อกเชนที่ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 มกราคมนี้ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่เอื้อนวยต่อการประกอบธุรกิจและการลงทุนอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีและบล็อกเชน
ด้านซีอีโอของ Xfers นาย Liu Tianwe ก็ได้ออกมากล่าวด้วยว่าปี 2020 นี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ตลาดคริปโตนั้นเจริญเติบโตในฐานะที่เป็นหมวดหมู่ของสินทรัพย์ และการมีกรอบกำกับดูแลด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่ชัดเจนในภูมิภาคอาเซียนจะยิ่งทำให้มีนักลงทุนเข้ามาในทวีปมากขึ้นอีก
นอกจากนี้แล้วการที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศผลักดันให้จีนเป็นผู้นำด้านบล็อกเชนก็ยิ่งทำให้บล็อกเชนมีการนำไปใช้มากขึ้นอีก
ด้านของผู้ก่อตั้ง Etherscan นาย Matthew Tan ก็เห็นว่าการเงินแบบกระจายอำนาจมันจะเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นอีก
“เทรนด์ของ DeFi นั้นจะไปต่อเรื่อยๆ ในปีนี้ แพลตฟอร์มมัลติเชนจะเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น และการ Halving ของ Bitcoin จะนำไปสู่ความผันผวนครั้งใหญ่และราคาจะยิ่งขึ้นลงอย่างรุนแรง” นาย Matthew Tan กล่าว
ด้าน CTO ของ BitGo นาย Ben Chan ก็ได้กล่าวด้วยว่าท่ามกลางสถานการณ์โลกที่วุ่นวายมันจะเริ่มทำให้รัฐบาลลุกขึ้นมาสร้างเงินดิจิทัลของตัวเอง
ธนาคารกลางของทวีปเอเชียรุดนำหน้าฝั่งตะวันตก
ประเทศจีนได้ซุ่มพัฒนาเหรียญดิจิทัลของตนมากว่า 5 ปีแล้วและอาจเป็นประเทศแรกที่เปิดตัวเหรียญดิจิทัลของรัฐ หรือ CBDC ออกมาเป็นประเทศแรกก็ได้
ในวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกกฎหมายใหม่เพื่อกำกับดูแลการจัดการพาสเวิร์ดแบบเข้ารหัสซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้แล้วโดยกฎหมายฉบับใหม่นี้มุ่งกำจัดช่องโหว่ทางไซเบอร์ของจีน
นอกจากนี้กฎหมายใหม่ที่ออกมาก็เพื่อเอื้ออำนวยต่อการใช้เงินหยวนดิจิทัลด้วย ยังมีประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่เริ่มวิจัยเพื่อหาช่องทางในการออกเหรียญดิจิทัลของรัฐบาลด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามสหรัฐอเมริกายังคงตามหลังและยังไม่มีทีท่าที่จะพัฒนาคริปโตเคอร์เรนซีของตนเองแต่อย่างใด
ที่มา : beincrypto
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น