หลังจากที่ช่วงที่ผ่านมาตลาดคริปโตเคอเรนซี่ตกอยู่ในช่วงของตลาดหมีอยู่นานกินระยะเวลากว่า 2 ปีด้วยกันนับตั้งแต่ต้นปี 2018 ลากยาวมาถึงปี 2019 ทำให้มีนักเทรดหลาย ๆ คนที่ออกจากตลาดไปมากมาย
แต่ทว่าในปี 2020 นี้ตลาดคริปโตเคอเรนซี่ได้กลับตัวทั้งในแง่ของปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคทำให้มีผู้ที่สนใจมากขึ้นรวมถึงบรรดานักเทรดขาเก่าที่ทยอยกลับมา บวกกับหน้าใหม่ในวงการทั้งหลายที่ทยอยตบเท้าเข้ามากันอย่างต่อเนื่อง
Bitcoin ได้พิจูน์ให้เห็นแล้วว่าตัวมันเองเป็นสินทรัพย์ที่มีทำกำไรมูลค่ามากที่สุดภายในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าในอีกทศวรรษข้างหน้าก็มีแนวโน้มที่ดีเป็นอย่างมากไม่ต่างกัน
ซึ่งนักเทรดที่สามารถรอดจากตลาดมาได้ในช่วงที่ยากลำบากของตลาดหมีจนถึงช่วงนี้พวกเขามีหลักการปฏิบัติตามหลักการที่ชาญฉลาดซึ่งจะมีความสำคัญยิ่งต่อการทำกำไรในอนาคต 3 ขั้นตอนด้วยกันดังนี้
1. ไม่พยายามที่จะเอาชนะตลาด
อย่างที่เราเห็นกันว่ากำไรของ Bitcoin ที่ขึ้นลงต่อวันมันมากมายและล่อตาล่อใจสายชอบเล่นสั้น และเข้ามาเก็งกำไรแบบฉาบฉวยเป็นอย่างมาก ซึ่งผลตอบรับก็คือมันได้ผลกำไรที่หอมหวาน รวมถึงได้ใช้ทักษะที่เยอะพอสมควรในการเทรด ซึ่งได้ทั้งผลลัพธ์ที่ดีและไม่ดีปะปนกันไป
แต่ในความเป็นจริงมันตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อการซื้อ Bitcoin แบบค่อยเป็นค่อยไป หรือเก็บสะสมมาเรื่อย ๆ ดูจะเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดแล้วจากข้อพิสูจน์หลาย ๆ อย่าง
ตัวอย่างเช่นการลงทุน Bitcoin รายเดือนอย่างง่าย ๆ หรือ DCA ที่ 100 ดอลลาร์ต่อเดือนตั้งแต่มกราคม 2013 ลากยาวมาจนถึงตอนนี้จะทำกำไรได้คุ้มค่ามากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ในความเป็นจริงการเริ่มต้นกลยุทธ์ง่าย ๆ แบบเดียวกันนี้เมื่อ BTC แตะระดับสูงสุดตลอดกาลในเดือนมกราคม 2018 ที่เป็นช่วงเริ่มต้นของขาลงอีกครั้งจะก็จะสามารถกำไรได้มากในตอนนี้ไม่ต่างกันนัก
ให้เห็นภาพก็คือจริง ๆ แล้วเราไม่ต้องมีเทคนิคอะไรที่หวือหวามากมายนักสำหรือมือใหม่ เพราะพวกเรามักจะไม่เก่งและพ่ายแพ้ให้กับตลาดจากหลาย ๆ ด้านทั้งประสบการณ์และความรู้ให้กับปลาใหญ่ในตลาดคริปโตเคอเรนซี่อันโหดร้าย ซึ่งผู้เชียวชาญทั้งหลายที่รับรู้ถึงความจริงข้อนี้มานานแล้วพวกเขาได้ตัดสินใจที่จะใช้หลักการซื้อเก็บ แบบ DCA ซะมากกว่าและอยู่ให้ห่างจากการเทรดบ่อย ๆ นั้นเอง
2. มองหา Altcoin ที่ไม่ควรมองข้าม
ถึงแม้การเก็บ Bitcoin จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในโลกของคริปโตเคอเรนซี่ แต่ในโลกของคริปโตเคอเรนซี่ยังคงมีอะไรที่มากกว่านั้นซึ่งก็คือบรรดา Altcoin ทั้งหลายที่มีให้เลือกมากมายที่พร้อมจะเข้ามาปฏิวัติเศรษฐกิจโลกด้วย Blockchain ของพวกมัน
นักลงทุนที่ฉลาดหลายคนไม่มองข้าม Altcoin เหล่านี้และให้มันเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ทคริปโตเคอเรนซี่ของตัวเองด้วยเช่นกัน เนื่องจากหากเราไปย้อนดูจะพบเลยว่า Altcoin ทั้งหลายให้ผลตอบแทนที่สูงเป็นอย่างมากแบบน่าตกใจซะยิ่งกว่า Bitcoin
ทว่าต้องไม่ลืมด้วยเช่นกันว่าการเลือกสรร Altcoin ให้เข้ามาอยู่ในพอร์ทของเรานั้นต้องมีการวิจัยและสืบค้นข้อมูลอย่างจริงจังเพราะมันมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูงเรียกได้ว่า High Risk High Return ก็ว่าได้
ดังนั้นแล้วการศึกษาข้อมูลของ Altcoin ที่เราสนใจและมองเห็นถึงศักยภาพควรได้รับการสนใจเป็นพิเศษและเราต้องมองให้ออกว่าเจ้าเหรียญที่เราเลือกมาในอนาคตจะเป็นอย่างไร ได้รับความนิยมหรือไม่ ทั้งหมดนี้ควรทำอย่างถี่ถ้วนมาก ๆ และไม่ควรมองข้ามแม้แต่น้อย
3. เก็บรักษา Bitcoin ให้ดี
อีกหนึ่งในสิ่งที่มือใหม่หลาย ๆ คนอาจจะมองข้ามกันไปนั้นก็คือ ในโลกของคริปโตเคอเรนซี่นั้นแม้จะมีการขุดขึ้นมาได้เยอะมากมายแล้วก็ตาม แต่ระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมามี Bitcoin จำนวนสูงถึง 1 ล้าน Bitcoin ได้หายไปในอากาศเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากการลืม Key ลืมรหัสเพื่อเข้า Wallet หรือถูกขโมยไปมาจากความผิดพลาดของมนุษย์หรือ Human Error
ดังนั้นแล้วนักลงทุนที่ฉลาดมัดจะให้ความสำคัญกับการจัดเก็บมาเป็นอันดับต้น ๆ ของการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่เสมอ พวกเขามักจะไม่เก็บเงินไว้ใน Exchage และพวกเขาเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งเลยว่าทำให้ถึงต้องมีกระเป๋าคริปโตเป็นของตัวเองจากสำนวนที่ว่าด้วย “not your keys, not your crypto” ทำให้พวกเขาเคารพความจริงในข้อนี้เป็นอย่างมาก
สิ่งสำคัญเลยคือ หากต้องการจัดเก็บ cryptocurrency อย่างถูกต้องให้พยายามสร้างวิธีการที่ชัดเจนและสอดคล้องกัน เช่นจด Key และ รหัสผ่านอย่างระมัดระวังและเก็บไว้ในที่ปลอดภัย อย่าเก็บข้อมูลสำคัญไว้ในไฟล์คอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้เข้ารหัสหรือในระบบคลาวด์โดยเด็ดขาด ที่สำคัญเคารพความจริงที่ว่าฮาร์ดไดรฟ์อาจมีปัญหาและไฟล์อาจเสียหายได้ดังนั้นควรมีแบบที่จะเสียหายได้ยากที่สุดไว้ด้วย
ทั้งหมดนี้ก็คือวิธีการที่นักลงทุนที่ดีใช้กันในการลงทุนกับ Bitcoin และคริปโตเคอเรนซี่ซึ่งตอนนี้กำลังมีการเติบโตที่ดีและผมเชื่อว่าทุกคนไม่ควรมองข้ามมันไปครับ
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น