Bitcoin แตกต่างจากสกุลเงินเฟียตตรงที่มันถูกขุดขึ้นมาและใครก็ตามที่ต้องการทำการขุด BTC ก็เพียงลงทุนซื้อเครื่องเพื่อประมวลผลทางคอมพิวเตอร์และเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟเอาไว้
อย่างไรก็ตามแม้จะมีคนที่ส่งเสริมสนับสนุนวิธีการขุดเพื่อให้ได้เหรียญคริปโตมากันมากมายแต่ดูเหมือนซีอีโอของ Ripple นาย Brad Garlinghouse จะไม่เห็นเช่นนั้นเพราะเขาเห็นว่ามันสร้างมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อม
จากทวิตเตอร์ของนาย Brad Garlinghouse เขาก็ได้ออกมาโพสต์ว่าพลังงานที่ใช้ไปกับการขุด Bitcoin และ Ethereum นั้นเยอะมากและสร้างมลภาวะทางอากาศซึ่งมันส่งผลต่อภาวะโลกร้อน
“พลังงานที่ใช้ไปกับการขุด BTC และ ETH นั้นมันมหาศาลและสิ้นเปลืองมากและมันก็ไม่มีแรงจูงใจใดๆ ในการรับผิดชอบต่อคาร์บอนที่เกิดขึ้น”
อย่างไรก็ตามก็มีผู้ที่ออกมาเห็นแย้งกับคำกล่าวของนาย Brad Garlinghouse ในทำนองว่าไม่ใช่ การขุด Bitcoin หรอกที่สิ้นเปลืองพลังงานแต่เป็นเพราะแสงไฟที่จัดในวันคริสต์มาสต่างหากที่มันใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่าประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่งเลยพร้อมแย้งว่าใครกันแน่ที่กำลังใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างสิ้นเปลือง
นอกจากนี้จากรายงานของ CoinShares ยังพบอีกด้วยว่าพลังงานที่ใช้ในการขุด Bitcoin ส่วนใหญ่แล้วเป็นพลังงานทดแทนและทำในพื้นที่ที่ใช้พลังงานน้ำอย่างมณฑลเสฉวน ประเทศจีนและชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ และแคนาดา
นาย Brad Garlinghouse ยังกล่าวอีกด้วยว่าประเทศจีนนั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีสัดส่วนของการขุด Bitcoin มากสุดเลยก็ว่าได้ กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของการขุดทั้งหมดเกิดขึ้นที่จีนและอีก 80 เปอร์เซ็นต์ของการขุด Bitcoin และ Ethereum ก็เกิดขึ้นที่จีน
แม้ว่าเขาจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวก็ตามแต่เขาก็ยังคงเป็นแฟน Bitcoin อยู่แต่ก็ยังคงตั้งคำถามกับกรณีการใช้งานของ Bitcoin ในระหว่างช่วงที่เขาให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ว่าหากนำ Bitcoin มาใช้ทำธุรกรรมใช้จ่ายรายวัน เช่น ซื้อกาแฟที่สตาร์บัคกว่ามันจะมีการประมวลผลเสร็จกาแฟอาจจะเย็นไปแล้ว
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น