Cryptocurrency สำหรับหลาย ๆ คนแล้ว อาจจะมองว่ามันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการทำธุรกรรมแบบออนไลน์แทนที่เงิน Fiat บ้างก็มองว่าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเก็งกำไร บ้างก็มองว่าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการลงทุน แต่สำหรับมุมมองของนาย Mark Cuban แล้ว เขากลับมองว่ามันเป็นเหมือนของสะสมมากกว่า ไม่ใช้ของที่จะเอามาใช้งานจริงเท่าไรนัก
ความเห็นของเศรษฐีพันล้าน
ในตอนล่าสุของ Ask Mr. Wonderful นาย Mark Cuban นักลงทุนระดับพันล้านได้ออกมาแสดงความเห็นของเขาเกี่ยวกับ Bitcoin และอธิบายถึงมูลค่าของมันว่าจริง แล้ว มันเหมือนกับของสะสมมากกว่า:
“คุณต้องถามตัวเองก่อนว่ามันมีมูลค่าได้ยังไง และคนอื่น ๆ ก็ให้มูลค่าแตกต่างกันออกไป สำหรับ Bitcoin แล้ว บางคนก็ให้มูลค่ามันเพราะมันเก็บรักษามูลค่าได้ (Store of Value) ซึ่งทำให้มันเหมือนเป็นพวกการ์ดเบสบอล, ศิลปะ และทองคำ มันมีมูลค่าเพราะว่า ผู้คนให้มูลค่ากับมันไม่ใช่เพราะว่ามันมีมูลค่าที่แท้จริง”
นาย Cuban ได้ชี้ว่า การที่ Bitcoin ยังไม่ได้รับการยอมรับโดยคนส่วนใหญ่นั้นก็เป็นเพราะมันยากเกินไปสำหรับคนทั่วไปที่จะใช้งานมันนั่นเอง:
“ผมไม่เคยเป็นคนที่ชอบทองคำเลย เพราะผมคิดว่ามูลค่าที่แท้จริงของมันมาจากการที่ผู้คนยอมจ่ายมัน ไม่ต่างจากดอกทิวลิป, ไม่ต่างจากการ์ดเบสบอล และก็ไม่ต่างจากหลาย ๆ อย่างที่จะดูมีมูลค่าก็ต่อเมื่อคุณคิดว่าจะมีคนยอมที่จะจ่ายเพื่อให้ได้มันมา”
อย่างไรก็ตาม เขากลับมองว่าประโยชน์ของ Bitcoin นั้นเกิดมาจาก Blockchain ซึ่งเทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างมากกว่าสร้างคริปโต:
“Blockchain จริง ๆ แล้วมันก็เป็นซอฟต์แวร์ มันเป็นศูนย์ข้อมูลแบบกระจายที่ถูกจัดการโดยทุก ๆ คนในเครือข่าย จนทำให้ซอฟต์แวร์นี้สร้างมูลค่าและประโยชน์ขึ้นมาได้”
“Blockchain ก็สามารถนำไปใช้ได้ในหลายกรณีเฉพาะทาง และตอนที่คนบอกว่าคริปโตไม่มีมูลค่าที่แท้จริงนั้น พวกเขาอาจจะไม่ได้มองมูลค่าของ Blockchain”
เขาได้อธิบายเพิ่มเติมต่อด้วยว่า Blockchain ที่เป็นเทคโนโลยีเบื้องหลัง Cryptocurrency นั้นสามารถนำมาใช้ในชีวิตจริงได้เลย
“ถ้าคุณลองดู Blockchain ของแต่ละคริปโต เช่น Bitcoin, Ethereum และอื่น ๆ จะเห็นได้ว่า โดยพื้นฐานแล้ว มันมีมูลค่าที่แท้จริงอยู่ ถึงมันจะไม่เท่ากับราคาจริง ๆ ที่คริปโตนั้นเทรดอยู่ก็เถอะ แต่มันก็มีมูลค่าพื้นฐานบ้าง”
“ยกตัวอย่างเช่นระบบบัญชีกลางที่ใช้ Blockchain ในการตรวจสอบ สำหรับบริษัทใหญ่ ๆ แล้ว แน่นอนว่า คุณต้องการที่จะมีผู้ตรวจสอบที่ไม่พึ่งพาใครจริง ๆ คุณก็เลยสร้างระบบบัญชีกลางที่ทำงานด้วย Blockchain ขึ้นมา ทำให้ใครก็ตามสามารถเข้าไปตรวจสอบบัญชีในส่วนต่าง ๆ ได้เลย”
“ด้วยแบบนี้ มันจะไม่ต้องพึ่งผู้ตรวจสอบคน หรือกลุ่มเดียว แต่จะทำให้กระบวนการมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะสามารถถูกตรวจสอบโดยใครก็ได้อย่างโปร่งใส”
นาย Cuban ได้ทำการยกตัวอย่างว่า จริง ๆ แล้ว Blockchain สามารถป้องกันการล่มสลายของบริษัท Enron ได้:
“ลองจินตนาการว่า ถ้าระบบนี้ถูกเอาไปใช้ในบริษัท Enron สิ แทนที่จะให้นาย Arthur Andersen เป็นคนตรวจสอบและทำบัญชีคนเดียว คุณก็รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“ถ้าเราใช้ Blockchain เราจะสามารถเข้าไปตรวจสอบบัญชีกลางในแต่ละส่วนได้เลย และก็คงจะจับการทุจริตนั้นได้ก่อนแล้ว”
มุมมองของนาย Cuban ที่มีต่อ Bitcoin นั้นก็ไม่ได้ผิดซะทีเดียว เพราะถ้าเทียบกันตอนนี้ การใช้งาน Bitcoin เลยยังดูเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ สำหรับคนทั่วไป ถ้าเทียบกับการโอนเงินออนไลน์ปกติแล้ว
แต่ Bitcoin เองก็พึ่งกำเนิดมาได้ 10 ปีกว่าเท่านั้น ยังคงถือว่าเด็กมาก ๆ ถ้านำไปเทียบกับเงิน Fiat ในอนาคตอีกหลายสิบปี ไม่แน่ว่า มันอาจจะถูกพัฒนาต่อยอดไปอีกจนถูกทำให้ใช้งานง่ายมาก ๆ และก็มาแทนที่เงิน Fiat ก็เป็นได้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น