เหตุการณ์ขาลงอย่างรุนแรงในช่วงวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาซึ่งส่งผลให้เกิดการลดระดับของราคาลงไปกว่า 50% โดยสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากสภาวะตลาดการเงินทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์หลายรายได้มีการออกมากล่าวถึงเหตุผลและปัจจัยอื่นๆที่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกด้วย
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาดคริปโตนั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่เป็นไปตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินทั่วไป แต่ในช่วงที่ผ่านมานั้นกับพบว่าอัตราความเคลื่อนไหวระหว่างตลาดคริปโตอย่าง Bitcoin และตลาดหุ้นอย่าง S&P 500 นั้นได้แปรผันตรงกันมากขึ้นจนอยู่ที่ระดับ 0.52 จุดจากระดับสูงสุดครั้งก่อนที่ 0.32 จุด ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสัญญาณถึงความอ่อนแอของตลาดต่อแรงกดดันจากภายนอกนั่นเอง
นอกจากนี้แล้วทางบริษัทวิจัยอย่าง Unchained Capital นั้นยัได้ออกมาเปิดเผยถึงที่มาของการเปลี่ยนแปลงราคาในช่วงเวลาดังกล่าวอีกด้วย โดยได้มีการเปิดเผยผ่านทางบัญชีทวิตเตอร์ของพวกเขาถึงข้อมูลจากบนเครือข่ายที่แสดงให้เห็นถึงอัตราการเทขายเหรียญจากบัญชีที่มีอายุแตกต่างกัน ซึ่งจากการวิเคราะห์ดังกล่าวนั้นพบว่าการเทขายปริมาณมากที่เกิดขึ้นนั้นมากจากบัญชีที่มีอายุหกเดือนหรือน้อยกว่าทั้งนั้น
นอกจากนี้แล้วยังพบข้อมูลอีกส่วนว่ามีปริมาณเหรียญ Bitcoin ซึ่งไม่เคยมีการเคลื่อนไหวในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้น เริ่มที่จะมีการเปลี่ยนมือกว่า 281,000 เหรียญ แต่ทั้งนี้เมื่อเทียบกับในกรอบเวลาที่กว้างขึ้นอย่างเช่นในช่วงหนึ่งปีนั้นมีเพียง 4,131 เหรียญเท่านั้นที่กลับมาเปลี่ยนมือหรือเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ซึ่งจากข้อมูลทั้งสองชุดข้างต้นซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่ราคาร่วงอย่างรุนแรงระหว่างวันที่ 11 และ 12 มีนาคมนั้นแสดงให้เห็นถึงแรงขายที่เกิดขึ้นจากเหล่านักลงทุนหน้าใหม่ในตลาดที่ได้เร่งเทขายเหรียญพร้อมๆกันในช่วงเวลาดังกล่าวจนกระทั่งราคาได้ร่วงลงกว่าครึ่งในที่สุด ซึ่งในทางกลับกันเหล่านักลงทุนที่อยู่ในตลาดมาระยะหนึ่งนั้นได้มีการเปลี่ยนมือของเหรียญน้อยกว่า นอกจากนี้ยังเป็นการเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงของความมั่นคงของตลาดคริปโตที่เริ่มมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดการเงินอื่นๆอีกด้วย
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น