<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ไวรัส COVID-19 กำลังทำให้โลกเห็นว่า Bitcoin ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ขึ้นตรงกับสินทรัพย์อื่นอยู่

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วันที่ 23 มีนาคม 2020 มีการเปิดเผยข้อมูลจาก Coin Metrics ซึ่งบ่งบอกตัวเลขความคู่ขนานของราคา Bitcoin และ Ethereum กับ S&P 500 ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ผลปรากฎว่าค่าความคู่ขนานพุ่งสูงขึ้นอย่างรนแรงจนทำสถิติความคู่ขนานสูงที่สุดในประวัติศาสตร์

ข้อมูลชิ้นนี้จึงเป็นข้อพิสูจน์ว่า Bitcoin ไม่ได้เป็นเหรียญที่มีราคาเป็นอิสระจากตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ เลยแม้แต่น้อย ความเชื่อว่าเหรียญ Bitcoin มีราคาเป็นอิสระจากตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ เป็นความเชื่อที่ทำให้นักลงทุนจำนวนมากลงทุนกับ Bitcoin เสมอมา และตอนนี้มันได้พังทลายลงแล้ว

กราฟ S&P 500 ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบกับราคา Bitcoin คือ ดัชนีตลาดหุ้นที่ติดตามหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐจำนวน 500 แห่ง ซึ่งแสดงถึงผลประกอบการของตลาดหุ้นโดยการรายงานความเสี่ยงและผลตอบแทนของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด นักเล่นหุ้นมักจะดูข้อมูลจาก S&P 500 เพื่อช่วยในการตัดสินใจการลงทุนและสภาพของตลาดโดยรวม ดังนั้นแล้วตัว S&P 500 จึงสามารถบ่งบอกการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นโดยรวมได้

ที่ผ่านมาค่าความคู่ขนานของ S&P 500 กับ Bitcoin และ Ethereum มักอยู่ในระดับต่ำ ทำให้นักลงทุนสามารถมั่นใจได้ตลอดว่าราคา Bitcoin เป็นเซฟเฮเว่นเพราะมันไม่ได้รับผลกระทับจากราคาของตลาดหุ้น แต่ในระยะเวลา 30 วันที่ผ่านมาทุกอย่างกลับตาลปัตร จากที่ค่าความคู่ขนานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2020 จะอยู่แค่ 0.04 แต่เมื่อมาวันที่ 17 เดือนมีนาคม 2020 มันขึ้นมาถึง 0.60 ถือเป็นการคู่ขนานของราคาที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ Bitcoin

วิกฤตโรคระบาดทั่วโลกในขณะนี้กำลังส่งผลต่อตลาดการเงินต่างๆ ทั่วโลก หลักทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุดอย่างทองคำเองก็ยังได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง จนถึงปัจจุบันนี้ราคาทองคำยังคงซบเซาและถือเป็นราคาที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019 มูลค่าของมันลดลงมากว่า 180 ดอลลาร์ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2020

วิกฤตไวรัส COVID-19 และสภาพเศรษฐกิจโลกในตอนนี้จึงเป็นเหมือนบททดสอบสำหรับความเชื่อที่ว่าราคา Bitcoin ไม่ได้ขนานไปกับหลักทรัพย์อื่น และจนถึงตอนนี้สามารถบอกได้ว่าคำกล่าวนั้นไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือ และสำหรับโลกในตอนนี้เงินสดยังถือเป็นสกุลเงินที่เป็นที่ 1 อยู่เช่นเดิม

ข้อมูลพิสูจน์ว่านักลงทุนเลือกที่จะขายสกุลเงินดิจิตอลเพื่อเก็บเงินสดไว้กับตัว สำหรับพวกเขาเงินสดเป็นสิ่งที่ปลอดภัยกว่า และนอกจากนั้นมันยิ่งย้ำเตือนว่า Bitcoin ยังห่างไกลจากความฝันและมันยังไม่ได้รับการใช้ในวงกว้างในการแลกเปลี่ยนระดับร้านค้าด้วย

แต่ถึงอย่างไรก็ตามตอนนี้สถานการณ์ Bitcoin อาจจะมีความหวังเนื่องจากการอัดฉีดเงินของธนาคารกลางสหรัฐกว่าล้านล้านดอลลาร์อาจจะทำให้นักลงทุนเลือกที่จะถือ Bitcoin แทนที่จะขายทิ้ง

แต่สถานการณ์ Bitcoin ก็ยังน่าเป็นห่วงเมื่อล่าสุดนาย Peter Brandt นักลงทุนชื่อดังออกมาชี้ว่าราคา Bitcoin กำลังเข้าสู่รูปแบบธง ซึ่งมักจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าราคา Bitcoin กำลังจะร่วงลงอีกครั้งในอนาคต และตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ราคา Bitcoin ร่วงหนักไปถึง 3,800 ดอลลาร์ ราคา Bitcoin ยังไม่สามารถฟื้นตัวไปเหนือระดับ 7,200 ดอลลาร์ได้เลยด้วยซ้ำ

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น