<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ข้อมูลเผย ราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นสูงก็ต่อเมื่อมีนักขุดที่ยังกำไรอยู่เท่านั้น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อช่วงประมาณ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกได้ตกอยู่ในlภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เนื่องจากนักลงทุนต่างเริ่มรู้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าไม่เพียงแต่เป็นโรคแพร่ระบาดอยู่ในประเทศจีนเท่านั้น แต่มันเป็นโรคระบาดที่กระจายตัวไปยังทั่วโลกและสามารถเข้าทำลายเศรษฐกิจทั่วโลกได้อย่างถาวร

ตลาด S&P 500 และ Dow ได้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลกเมื่อปี 2008 และนักลงทุนจะจดจำว่าในวันที่ 13 มีนาคมราคา Bitcoin ( BTC ) ได้ร่วงลงกว่า 50% ภายในช่วงเวลาเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น

ในวันที่ความผันผวนและความกลัวในตลาดการเงินยังคงอยู่และอนาคตของตลาดก็ยังคงมืดมน นักลงทุนบางคนก็เริ่มรู้สึกว่าช่วงที่เลวร้ายที่สุดนั้นอาจได้ผ่านพ้นไปแล้ว 

โดยปกติแล้ว เมื่อมีเหตุการณ์ความไม่แน่นอนหรือช่วงวิกฤตทางการเงินเกิดขึ้น นักวิเคราะห์ , ผู้เชี่ยวชาญ และผู้คนในชุมชนคริปโตบนทวีตเตอร์ก็จะออกมารวมตัวกันเพื่อช่วยหาสาเหตุกันว่ามัน ‘เกิดอะไรขึ้น’ กันแน่

นักเทรด Bitcoin ทราบดีว่าเมื่อเว็ปเทรดคริปโตฟิวเจอร์มีการ liquidate ครั้งใหญ่ บ่อยครั้งที่มันมักจะนำมาซึ่งราคาที่ร่วงลงอย่างรวดเร็ว 

สำหรับเว็ปเทรดที่ Bitmex เพียงแห่งเดียวก็ได้มีการ liquidate สัญญา Long positions ไปแล้วกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์และอีกกว่าร้อยล้านดอลลาร์ก็ได้ถูกลบหายไปจากตลาด Bitcoin ซึ่งนั่นทำให้นักลงทุนจำนวนมากพร้อมกับกองทุนป้องกันความเสี่ยงถูกกวาดล้างในช่วงเวลาเพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้น

หลายคนเชื่อว่าการร่วงลงของราคาในครั้งนี้เป็นผลพ่วงมาจากความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin กับตลาดหุ้นแบบดั้งเดิมและการ liquidate ของเว็ปเทรดฟิวเจอร์ สิ่งเหล่านี้ทำให้นักวิเคราะห์บางคนเริ่มกังวลว่าการที่ราคา Bitcoin ได้ร่วงลงสู่ระดับ $ 3,750 นั้นอาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อนักขุดเหมือง

ปัจจุบันนักลงทุนอยากรู้ว่าราคาของ Bitcoin นั้นต่ำกว่าอัตราการทำกำไรจากการขุดเหมืองหรือไม่และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหน้านั้นจะเป็นแรงจูงใจหรือถดถอย เนื่องจากตอนนี้ราคาของ Bitcoin ได้ต่ำกว่าระดับราคาที่คาดการณ์เอาไว้ในเดือนเมษายน

เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ทางสื่อข่าว Cointelegraph ได้มีการสัมภาษณ์นาย Joe Nemelka ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูลด้าน blockchain ของ CryptoQuant  

Cointelegraph : นักลงทุนควรกังวลเกี่ยวกับสถานะของนักขุด Bitcoin หรือไม่? หลังจากวันที่ 13 มีนาคมที่ราคาร่วงลงไปสู่ระดับ $ 3,775 นอกจากนี้ยังมีเสียงพึมพำว่านักขุดเหมืองอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการทุบราคาที่ลง 50% คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้? 

Joe Nemelka : เนื่องจากกลุ่มนักขุดเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ใหญ่ที่สุดของระบบนิเวศนี้ พวกเขาจึงสามารถขาย Bitcoin ได้มากกว่าเมื่อเทียบกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ซึ่งมันได้บ่งบอกถึงการยอมจำนนและความผันผวนที่เพิ่มเข้ามา

การเคลื่อนไหวในครั้งนี้อาจเป็นไปในเชิงลบ เนื่องจากนักขุดที่ทำการเทขายเหรียญของพวกเขานั้นได้ทำการเทขายเพื่อช่วยผลักดันอุปสงค์ นอกจากนี้ยังสามารถผลักดันราคาให้เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่นักขุดที่ไม่สามารถทำกำไรเดินออกจากตลาดไปและมีเพียงนักขุดที่สามารถทำกำไรเท่านั้นที่จะอยู่รอด ซึ่งเราจะเห็นได้จากแรงกดดันด้านการขายที่ลดลงอย่างรวดเร็ว

จากกราฟด้านบนเห็นได้ชัดว่าเมื่อตัวชี้วัดเหล่านี้ลดต่ำลง ราคา Bitcoin ก็จะเกิดเปลี่ยนแปลงไปในเชิงบวก เราจะเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2018 , ส.ค. 2018  , พ.ย. 2018 ธ.ค. 2018 , เม.ย. 2019 , ก.ค. 2019 , ต.ค. 2019 และ ก.พ. 2563

ข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ เปอร์เซ็นของกระแสเงินที่ไหลเข้าสู่เว็ปเทรดนั้นมีระดับที่ต่ำสุดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนั่นหมายความว่านักขุดยังคงค่อนข้างโอเคและมีการดำเนินงานของพวกเขาได้ต่อไป หลังจากเกิดการร่วงลงของราคา

แนวคิดที่ว่าเมื่อราคา Bitcoin ร่วงลดลงและนักขุดจะยอมแพ้และออกจากตลาดไปนั้นยังดูไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่นัก เมื่อดูข้อมูลจากการไหลเข้าและออกของเหล่านักขุด

เมื่อเปรียบเทียบจากข้อมูลกระแสเงินไหลเข้าเว็ปเทรดแล้ว เราจะเห็นว่าเว็ปเทรดคริปโตมีกระแสเงินไหลเข้าแตะจุดอยู่ตลอดเวลาและสูงกว่าช่วงก่อนหน้านี้ถึงเกือบสามเท่า ซึ่งหมายความว่ามีเหรียญ Bitcoin จำนวนมากที่มากกว่าช่วงเวลาไหน ๆ ไหลเข้ามาสู่เว็ปเทรดคริปโต

จุดที่น่าสังเกตของเรื่องนี้ก็คือการที่ Bitcoin กำลังไหลมาเข้าสู่เว็ปเทรดคริปโตนั้นส่วนใหญ่เป็นความต้องการในการเทขายและก็อย่างที่เราเห็นความต้องการในการเทขายนั้นสูงที่สุด นับตั้งแต่ที่เราเคยเห็นมา

จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น สรุปได้ว่าตอนนี้เหล่านักขุดมีเงินสดสำรองอยู่เปนจำนวนมากที่จะคงไว้ซึ่งการดำเนินงานของพวกเขาต่อไปจนกว่าจะถึงช่วงเหตุการณ์ Halving ของ Bitcoin ซึ่งทำให้ราคาร่วงลดลงอย่างมาก

Cointelegraph : สิ่งนี้เกี่ยวกับการยืมเงิน , ต้นทุนในการดำเนินงาน , สินเชื่อ crypto และเงินเฟียตหรือไม่ จากมุมมองของคุณ และจุดคุ้มทุนของนักขุดนั้นควรอยู่ที่เท่าไร ?

JN : มันเป็นเรื่องยากที่ตอบได้ แต่ผมชอบที่จะอ้างอิงข้อมูลต้นทุนการผลิต Bitcoinของนาย Charles Edwards เนื่องจากมันสามารถคำนวณต้นทุนค่าไฟฟ้าสุทธิ (ด้านล่าง) และค่าไฟฟ้า + ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ  (ด้านบน) 

ผมจะวางจุดคุ้มทุนสำหรับเหมืองขุดทั่วไปไว้อยู่ที่ประมาณ $ 7,500 และ $ 8,000 ในช่วงเวลานี้

ดูเหมือนว่าสิ่งที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้ก็คือ เหตุการณ์ Halving ของ Bitcoin และอุปกรณ์ในการขุด เนื่องจากเครื่องขุดรุ่นเก่าที่ไม่มีประสิทธิภาพ (S9, S11, หรือรุ่นที่คล้าย ๆ กัน) จะเริ่มออฟไลน์ลงไปและนักขุดเหมืองรุ่นใหม่ก็จะมีแฮชเรตที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งพวกมันอาจช่วยแบ่งเบาภาระของนักขุดได้ 

ที่มา : cointelegraph

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น