การ halving ครั้งต่อไปเมื่อนับถอยหลังแล้วห่างออกไปเพียง 26 วันเท่านั้น นักลงทุนหลายคนต่างคาดการณ์ว่าการ halving จะทำให้ราคา Bitcoin สูงขึ้นได้อย่างแน่นอนถึงแม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงซบเซา พวกเขาเชื่อว่าการ halving ครั้งต่อไปจะส่งผลกระทบต่อราคา bitcoin เหมือนกับสองครั้งที่ผ่านมา แต่ถึงอย่างไรก็ตามนาย Roger Ver จากคา่ย Bitcoin Cash ก็ออกมากล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้การ halving ครั้งนี้จะไม่ทำให้ราคา Bitcoin สูงขึ้นแต่อย่างใด

เมื่อดูจากชาร์ตราคาแล้วจะพบว่าการ halving ครั้งที่ผ่านมาจะตามมาด้วยการที่ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นในระยะยาว แต่นาย Roger Ver ออกมากล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่าราคา Bitcoin ในปี 2020 จะไม่พุ่งไปสูงขึ้นหลังการ halving โดยเขาให้สาเหตุว่าจำนวน blocks ของ Bitcoin นั้นมีปริมาณเต็มอยู่ตลอดเวลา ไม่เหมือนกับการ halving ครั้งที่ผ่านมา นาย Roger Ver กล่าวว่า:
“เมื่อไหร่ที่จำนวน blocks เต็มในช่วงการ halving ค่า hashrate จำนวนมากจะหายไป สถานะของเครือข่ายจะแย่ลง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการโอนเงินสูงขึ้นและแปรปรวนจนเชื่อถือไม่ได้”
ซึ่งนาย Roger Ver บอกว่าปรากฎการณ์นี้จะทำให้นักลงทุนเห็นข้อผิดพลาดของ Bitcoin และทำให้พวกเขาหันไปลงทุนกับอย่างอื่นแทน ซึ่งในจุดนี้เองที่เขาถอโอกาสพูดถึงเหรียญ Bitcoin Cash (BCH)
นาย Roger Ver กล่าวว่าในปัจจุบันนี้เหรียญ Bitcoin Cash นั้นนำหน้า Bitcoin ไปแล้วในเรื่องของเทคโนโลยี เขากล่าวว่าระบบ CashFusion ของ BCH นั้นมีประสิทธิภาพกว่า Lighting Network ของ Bitcoin คำกล่าวของเขาน่าพิจารณาตรงที่ในปัจจุบันมีเหรียญหลายเหรียญที่มีจุดเด่นแข่งกับ Bitcoin ทั้งในด้านความเร็วในการโอนเงิน scalability และระบบรักษษความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
Bitcoin Cash เองก็สามารถมีระบบโอนเงินที่รวดเร็วกว่า Bitcoin และมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า นอกจากนั้นแล้ว Bitcoin Cash ยังสามารถรองรับจำนวนการโอนเงินในเวลาเดียวกันได้มากกว่า Bitcoin อีกด้วย นาย Roger Ver กล่าวเช่นกันว่าตัวระบบกำลังจะพัฒนาระบบรักษาความเป็นส่วนตัวของ BCH ใหม่ เขาบอกว่า:
“ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้แนะนำให้ผู้ใช้ Bitcoin Cash รู้จักกับระบบรักษาความเป็นส่วนตัวที่มีประสิทธิภาพด้วยการใช้วอลเล็ตของ bitcoin.com และผมรู้สึกว่านี่คือจุดเปลี่ยนของระบบเครือข่ายไปในทางที่ดีเช่นกัน”
แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีงานวิจัยบางชิ้นที่ยังบอกว่า Bitcoin Cash ยังไม่สามารถสู้กับ Bitcoin ได้ งานวิจัยของ messari.io กล่าวว่า Bitcoin Cash ยังมีประสิทธิภาพในการทำงานต่ำกว่าระบบของ Bitcoin โดยนาย Roger Ver โต้กลับว่างานวิจัยชิ้นดังกล่าวเ็บข้อมูลในช่วงที่เครือข่ายของ BCH รันเป็นระบบเทสต์ ดังนั้นแล้วสถิติที่ได้มาจึงไม่แม่นยำมากนัก
นาย Roger Ver เคยออกมาให้สัมภาษณ์กับทางนักข่าวว่า Bitcoin นั้นไม่สามารถบรรลุจุดประสงค์ของมันได้ และมันยังไม่มีความเพรียบพร้อมพอที่จะกลายเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่จะก้าวขึ้นมาเป็นสกุลเงินระดับโลกแทนที่สกุลเงินปกติ เขาอ้างว่า:
“ระบบ Lightning Network ยังไม่พร้อมหรอก ค่าใช้จ่ายของ Bitcoin ยังคงอยู่ในระดับที่สูงและเครือข่ายของมันยังติดขัดเกินไป”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น