แม้เมื่อเร็ว ๆ นี้เส้นทางรุ่งเรืองของเครื่องขุด Bitcoin Antminer S9 จะมาถึงทางตันและไม่สามารถทำกำไรได้อีกต่อไป แต่ถึงกระนั้นอัตรา hashrate ของเครื่องขุด Antminer S9 ก็ยังคงถูกส่งมาที่เครือข่าย ซึ่งการฟื้นตัวในครั้งนี้บ่งชี้ว่านักขุดเริ่มมีความมั่นใจในราคาของ BTC เพิ่มขึ้นแล้ว
หลังจากที่กิจกรรม Having จบลง นักขุดต่างก็พากันถอดปลั้กเครื่องขุด Antminer S9 ของพวกเขา เนื่องจากผลผลิตที่ได้จาก Bitcoin นั้นไม่ครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามตอนนี้อัตรา hashrate S9 ได้ฟื้นตัวกลับขึ้นมาแล้ว ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่านักขุดมีเริ่มเชื่อมั่นในราคาที่สามารถยืนเหนือระดับ 9,000 ดอลลาร์ได้สบาย ๆ
Asic Antminer S9 ของ Bitmain เคยเป็นเครื่องขุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่รุ่นที่ใหม่กว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าได้เข้ามาแทนที่มันอย่างช้า ๆ หลังการเกิดเหตุการณ์ Halving โดยที่การขุดจากเครื่องขุด S9 เพียงอย่างเดียวคิดเป็น 18% ของอัตรา hashrate ที่มีอยู่ทั้งหมดบนเครือข่าย แต่ในสัปดาห์การเพิ่มขึ้นของอัตรา hashrate ที่มาจากเครื่องขุด S9 นั่นคิดเป็น 32% ของอัตรา hashrate ทั้งหมดที่มีอยู่ในเครือข่าย Bitcoin
แม้ว่าเหตุการณ์ Halving จะทำให้นักขุดได้รับรางวัลบล็อกลดน้อยลงและทำให้นักขุดบางส่วนต้องพาออกจากเครือข่ายไป แต่ราคา Bitcoin ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นนั้นกำลังดึงดูดให้เจ้าของ Antminer S9 กลับมาเปิดเครื่องขุดของพวกเขาอีกครั้ง โดยดูเหมือนว่าเครื่องขุด Antminer S9 ที่มีอยู่มากมายในตลาดมือสองบวกกับราคาไฟฟ้าที่ลดต่ำลงของจีนจะมีส่วนช่วยในการฟื้นตัวของเครื่องขุด S9
อีกเหตุผลหนึ่งสำหรับการกลับมาของ S9 ก็คือ ความผันผวนที่เกิดขึ้นรอบ ๆ อัตรา hashrate ของ Bitcoin ในช่วง Halving ซึ่งทำให้ การขุด Bitcoin มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนมากขึ้น หากยังคงฝืนใช้เครื่องขุดรุ่นเก่าต่อไป แต่หลังจากที่อัตราของเครือข่ายเริ่มมีความเสถียรมากขึ้นแล้ว เครื่องขุดรุ่นเก่าก็จะสามารถนำกลับขุดได้อย่างปลอดภัย
ในวันที่ 9 พฤษภาคมอัตรา hashrate ของเครือข่าย Bitcoin ได้ร่วงลดลงจากจุดสูงสุดรายเดือนที่ระดับ 136 th/s ไปเป็น 82 th/s ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยอยู่ที่ระดับประมาณ 92 th/s หรือคิดเป็นลดลงกว่า 32% จากจุดสูงสุดรายเดือน
Coinmetrics ได้ตั้งข้อสังเกตว่าจำนวนที่ลดลงของเครื่องขุด S9 นั้นไม่มากพอที่จะทำให้เครือข่าย Bitcoin เสี่ยงที่จะถูกโจมตีด้วย 51% attack แต่ทว่า “สถานะของพวกมันนั้นสำคัญ” อย่างไรก็ตามความจริงก็คือเครื่องขุดรุนเก่านั้นมีราคาถูกและมันก็สามารถแข่งขันกับเครื่องขุด ASIC รุ่นใหม่ ๆ ได้ ทำให้ต้นทุนสำหรับการโจมตีด้วย 51% attack นั่นต่ำมากในบล็อกเชน SHA-256 อื่น ๆ เช่น Bitcoin Cash และ Bitcoin SV
นอกจากนี้ Coinmetrics ยังได้ตั้งข้อสังเกตอีกด้วยว่า ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมนั้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของรายได้โดยรวม เพื่อชดเชยรางวัลบล็อกของนักขุด สัดส่วนของค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับรางวัลบล็อก สิ่งนี้เป็นตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของเครือข่าย เนื่องจากเหตุการณ์ halving ในอนาคตจะเป็นการลดรายได้ของนักขุดลงครึ่งหนึ่งทุก ๆ 4 ปี ดังนั้นความปลอดภัยของเครือข่าย Bitcoin จึงจะขึ้นอยู่กับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อย ๆ
ปัจจุบันค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Bitcoin คิดเป็น 17% ของรายได้สำหรับนักขุดเมื่อเทียบกับ 4% ในช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ Halving
ที่มา : cryptobriefing