อดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบิน Etihad Airlines ถูกสั่งจำคุก 3 ปีหลังไม่สามารถชำระหนี้เงินกู้จำนวน $100,000 ที่เขากู้มาเพื่อลงทุนในคริปโตช่วงราคามันทะลุจุด All Time High ได้
ผู้ใช้งานบน Reddit Crypthomie ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้โดยให้ข้อมูลว่ามีชายผู้หนึ่งที่ไม่ได้เป็นพลเมืองของ UAE ได้โพสต์รูปภาพหนังสือแจ้งให้ชำระหนี้จากธนาคาร Emirates Islamic Bank เป็นเงินกว่า 338,000 Dirham หรือประมาณ $109,000 ในช่วงนั้น
อย่างไรก็ตามพอไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดก็ทำให้ชายผู้นี้ตกงานก็ทำให้เขาหาเงินมาจ่ายหนี้ไม่ไหว โดยปกติเขาจะต้องชำระหนี้เป็นงวด ๆ โดยแบ่งชำระเป็นงวดละ $2,230 ตอนนี้เขาต้องชำระหนี้ให้ธนาคารเป็นเงิน 393,296.80 Dirham รวมดอกเบี้ย (ประมาณ $127,000) ภายในสิ้นปี 2021
ลงทุนหลังราคาคริปโตพุ่งทะลุจุดสูงสุด
เรื่องราวดังกล่าวของชายผู้นี้ได้กลายเป็นไวรัลขึ้นมาหลังมีการโพสต์ภาพหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้จากธนาคาร โดยเขาเคยกู้ยืมเงินจากธนาคารในช่วงวันที่ 18 ธ.ค. 2017 วันเดียวกันกับที่ Bitcoin พุ่งทะยานแตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่ระดับ 20,000 ดอลลาร์
หลังจากนั้นเขาก็ได้เอาเงินไปลงทุนในคริปโตแล้วขาดทุนไป 85% โดยเหรียญที่เขาได้ลงทุนไปก็คือ Neo (NEO), Stellar (XLM), Litecoin (LTC), Ethereum (ETH) และยังมีเหรียญที่ไร้มูลค่าแล้วล้มหายตายจากไปอีก
“มันเป็นการลงทุนเก็งกำไรครั้งแรกของผม เป็นช่วงอายุที่ยังไม่มีความยับยั้งชั่งใจและเข้าแบกรับความเสี่ยงมหาศาล”
อีกเรื่องที่เป็นอุทธาหรณ์หากลงทุนแล้วไม่ได้ทำการศึกษาก่อนก็จะทำให้ผู้ลงทุนสูญเสียมากกว่าได้กำไร
ถูกสั่งจำคุก
ประเทศใน UAE มันไม่เหมือนประเทศอื่น ๆ เพราะว่าหากลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้มันจะมีความผิดอาญา ทำให้ศาลสามารถสั่งจำคุกลูกหนี้ได้ถึง 3 ปีหรือมากกว่านั้นหากไม่มีการชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นไป
“เรากำลังจะถูกส่งเข้าคุกในอีกไม่กี่เดือน” เขาพูดถึงตัวเขาและเพื่อนอีกคน “สิ่งที่แย่ที่สุดคือเราไม่สามารถติดต่อกันได้”
หลาย ๆ ประเทศมีการสั่งห้ามไม่ให้จำคุกลูกหนี้ แต่รัฐบาลก็ต้องหาทางบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้ให้ได้ อย่างในสหรัฐฯ ถ้าไม่ยอมรับค่าปรับหากทำผิดกฎจราจรก็อาจถูกสั่งจำคุก
ที่มา : cointelegraph