บราซิลอาจเป็นประเทศต่อไปสำหรับบริษัท Ripple ที่จะได้สัมผัสเทคโนโลยีการชำระเงินข้ามพรมแดน ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งานในประเทศแถบละตินอเมริกาอื่น ๆ
ในการระหว่างการให้สัมภาษณ์บนช่องยูทูปที่มีชื่อว่า “Future of Finance” เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน นาย Marjan Delatinne หัวหน้าฝ่ายการธนาคารระดับโลกของ Ripple ได้กล่าวว่า บริษัทคริปโตกำลังพัฒนาระบบชำระเงินข้ามพรมแดนให้กับประเทศบราซิล
เมื่อถูกถามถึงเรื่องผลิตภัณฑ์ On-Demand Liquidity (ODL) นาย Delatinne กล่าวว่า บริษัทกำลังวางแผนที่จะขยายการให้บริการไปยัง “เส้นทางที่แปลกใหม่” เช่นประเทศฟิลิปปินส์และบราซิล ซึ่งเป็นตลาด “ที่คุณไม่ต้องการรักษาสภาพคล่องและคุณจะสามารถย้ายเงินทุนเมื่อใด ๆ ก็ได้ที่คุณต้องการ”
บริษัทของบราซิลทั้งสามแห่ง ได้แก่ Santander , Bradesco และ Banco Rendimento ปัจจุบันกำลังใช้เครือข่ายบริการทางการเงินของ Ripple เพื่อการชำระเงิน
อย่างไรก็ตามนาย Delatinne อธิบายเสริมด้วยว่า ผลิตภัณฑ์ ODL นั่นจะสามารถนำมาใช้กับโทเค็น XRP ที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่าง 2 สกุลเงินเฟียตสำหรับการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนอย่างไร ?
เครือข่าย ODL กำลังมีการใช้งานเพิ่มขึ้น ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่า สภาพคล่อง XRP บนเครือข่าย ODL ของ Ripple ได้พุ่งทำลายสถิติสูงสุดใหม่ โดยคิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึงสามเท่าสำหรับวอลุ่มการทำธุรกรรมในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2020 ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ที่ทำธุรกรรมโดยใช้ ODL เพิ่มขึ้นมากกว่า 294%
แผนการสำหรับบราซิล
นาย Delatinne รายงานว่า ประธานธนาคารกลางของบราซิลได้มีการประชุมวิดีโอคอลกับนาย Brad Garlinghouse CEO ของ Ripple และตัวแทนของ Ripple อีกสามคนในระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม
Ripple วางแผนที่จะขยายบริการไปยังบราซิลและประเทศอื่น ๆ ในแถบละตินอเมริกาอย่างน้อยนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2019 เมื่อบริษัทเปิดสำนักงานใหญ่ในเซาเปาโล
ที่มา : cointelegraph