ปัจจุบันแอฟริกามี Bitcoin node อยู่ทั้งหมด 8 node อ้างอิงแผนที่ข้อมูลที่สร้างขึ้นโดยนาย Chimezie Chuta ผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ซึ่งหลายคนสันนิษฐานว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวในประเทศไนจีเรียที่รู้จักกันการใช้ Lightning node
โดยทั่วไปแล้วผู้ใช้ที่ต้องการจะรัน node จะมีข้อแม้อยู่ข้อหนึ่งว่าจะต้องไม่เปิดเผยตัวตนต่อสาธารณะ แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้ข้อมูลทุกอย่างก็บ่งบอกแล้วว่า Lightning node กำลังกระจัดกระจายไปทั่งทั้งทวีปที่ใหญ่เป็นอันดับสองและมีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก
นาย Chuta ต้องการเปลี่ยนสิ่งนี้ และเช่นเดียวกับแฟน Bitcoin หลาย ๆ คน เขาเชื่อว่ารัน node บนเครือข่ายเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเป็นอิสระทางการเงินอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ Lightning node เขากล่าวว่าวิธีนี้อาจช่วยให้ชาวแอฟริกันได้รับรายได้จำนวนเล็กน้อยจากค่าธรรมเนียมในการโอนข้ามเครือข่ายเขากล่าว
ด้วยเหตุนี้ BlockSpace Technologies Africa Inc. ซึ่งเป็นบริษัทของนาย Chuta จึงได้เปิดตัวชุดเครื่องสำหรับการรันโหนด Bitcoin และ Lightning รวมถึงชิ้นส่วนอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดสำหรับการประกอบสิ่งที่เรียกว่า ‘SpaceBox’ ด้วยความหวังว่าจะขยายการใช้งานเทคโนโลยีนี้ข้ามทวีป
“ผมคิดว่าสิ่งนี้จะช่วยให้คนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคที่มีรายได้ต่ำของโลกกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ Bitcoin นอกเหนือจากการซื้อขายและการเก็งกำไรแล้ว แอฟริกาดูเหมือนจะไม่มีตัวแทนอยู่แล้ว ” นาย Chuta กล่าว
ชาวแอฟริกาหลายคนไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินเช่น บัญชีธนาคารแบบดั้งเดิม ในปี 2015 ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าประชาชน 350 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในซับซาฮาราแอฟริกานั้น “ไม่มีบัญชีธนาคาร” ในทางทฤษฎี ดังนั้นการใช้รันโหนดจะช่วยผู้คนสามารถเชื่อมต่อแอฟริกันเข้ากับระบบการเงินที่ทันสมัยยิ่งขึ้นและทำได้ในลักษณะที่ช่วยให้พวกเขามองเห็นและควบคุมเงินทุนได้ดีกว่าการพึ่งพาบุคคลที่สาม
SpaceBox วางจำหน่ายอยู่ที่ราคา 210,000 naira สกุลเงินไนจีเรีย หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 16,230 บาท ส่วนประกอบหลัก ๆ ของชุดนี้เป็นชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่เรียกว่า Raspberry Pi ซึ่งจะใช้ซอฟต์แวร์ Raspblitz แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับการโหนด Lightning node นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบของแผงโซล่าเซลล์เนื่องจากชาวแอฟริกันส่วนใหญ่ขาดแคลนไฟฟ้า
“เป้าหมายของเราคือการยกกองทัพผู้ให้บริการ Bitcoin Lightning node มาให้เต็มทุกซอกทุกมุมของทั้งทวีปภายในปีหน้า” นาย Chuta กล่าว
จนถึงเมื่อเดือนที่แล้ว BlockSpace ได้รับคำสั่งซื้อ 7 รายการจากบริติชโคลัมเบีย , 5 รายการจากประเทศไนจีเรียและอีกหนึ่งรายการจากประเทศกานา
อธิปไตยทางการเงิน
ผู้อ่านบางคนอาจรู้สึกว่าเหมือนกับ ‘เดจาวู’ เพราะในช่วงครึ่งทศวรรษที่ผ่านมาแอฟริกานั่นถูกขนานนามว่าเป็นพื้นที่สำหรับการผลักดันการยอมรับคริปโตเคอเรนซี่
ในประเทศเหล่านี้การใช้งานคริปโตถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติ และการต้องใช้ bitcoin ในการโอนเงินวันนี้แทบจะไม่เป็นปัญหาอะไรกับ Western Union
แต่สิ่งที่ Chuta ทำนั้นแตกต่างออกไป เขามุ่งเน้นในเรื่องความเป็นอิสระที่มาพร้อมกับการใช้งาน Bitcoin full node โดยผู้คนจะมีรายได้ส่วนหนึ่งมาจาก Lightning ซึ่งนี่เป็นวิธีที่พวกเขาจะสามารถรับรายได้และปกป้องเงินไปพร้อม ๆ กัน
การใช้งาน Bitcoin full node โดยทั่วไปนั้นหมายถึงการใช้โครงสร้างพื้นฐานสำหรับสกุลเงินดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งแตกต่างจากการขุดที่ต้องลงทุนเงินจำนวนมากในชิป โดยเฉพาะไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศ ทุกคนสามารถเรียกใช้ node บนแล็ปท็อปที่มีความจุเพียงพอเท่านั้น และปัจจุบันมีผู้ใช้โหนดอย่างน้อย 10,000 คนทั่วโลก
แม้ว่าจะไม่มีรางวัลให้โดยตรงสำหรับการใช้งาน Bitcoin node แต่ก็มีข้อได้เปรียบเหนือผู้ใช้บริการอยู่สองอย่างด้วยกัน (ไม่มีบุคคลที่สามมาถือ private key) และการตรวจสอบการชำระเงินแบบง่าย ๆ ในกระเป๋าเงินวอเล็ท (ซึ่งตรวจสอบเฉพาะการทำธุรกรรมของตนเองเท่านั้น) full node “จะทำการตรวจสอบตัวเอง” โดยดึงทุกธุรกรรมที่บันทึกอยู่ในบล็อกเชน ด้วยข้อมูลผู้ใช้จะสามารถตรวจสอบได้โดยตรงว่าการทำธุรกรรมเป็นไปตามกฎของเครือข่ายหรือไม่
“การเป็นผู้มีอำนาจทางการเงินได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นและบิทคอยน์เป็นเครื่องมือหลักในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว” นาย Chuta กล่าว
SpaceBox Lightning node เป็นองค์ประกอบที่ถูกสร้างขึ้นอยู่ด้านบนของ Bitcoin node ซึ่ง Lightning พยายามที่จะแก้ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดข้อหนึ่งของ Bitcoin นั่นก็คือ การเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดเพื่อให้ผู้คนสามารถใช้เครือข่ายได้ในคราวเดียว หากประสบความสำเร็จมันอาจเป็นวิธีหลักในการชำระเงินในชีวิตประจำวันของสกุลเงินดิจิตอลและสร้างรายได้ให้กับโหนดที่ทำงานอยู่เหล่านั้น
“แม้ว่าการใช้งาน Bitcoin Lightning full node จะเป็นเหมือนการมีส่วนร่วมในงานอดิเรก แต่ก็มีบางคนที่ทำเงินได้แล้ว โดยการวางตำแหน่ง node ของพวกเขาในฐานะ ช่องทางการชำระเงินแบบ Lightning payment ” นาย Chuta กล่าว
พลังงานแสงอาทิตย์
ปัจจุบันมันมีหลายตัวเลือกสำหรับการสร้าง Lightning node เช่น RaspiBlitz หรือ การซื้อมันมาจากคนอื่น ๆ เช่น myNode
ผู้ผลิตโหนดส่วนใหญ่คิดว่าผู้ใช้จะมีแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพ แต่คงไม่ใช่สำหรับแอฟริกา อ้างอิงข้อมูลของ The World Bank เผยว่าประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งในแอฟริกานั่นขาดแคลนไฟฟ้า
“สำหรับโครงสร้างพื้นฐานไนจีเรีย (และประเทศในแอฟริกาอื่น ๆ ) ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้มากนัก ดังนั้นการทำงานของ Full node จึงเป็นเรื่องที่ยากมาก” นาย Tim Akinbo ผู้ให้การสนับสนุน Bitcoin Core กล่าว
ดังนั้นแผงโซลาร์เซลล์จึงมาพร้อมกับชุด SpaceBox
“เราคาดว่าผู้คนจำนวนมากทั่วโลกโดยเฉพาะชาวแอฟริกันสามารถเข้าร่วมได้”
นอกเหนือจากเรื่องกระแสไฟฟ้าแล้ว นาย Akinbo กล่าวด้วยว่ามันยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการใช้งานโหนดทั้งหมด พวกเขาต้องการพื้นที่ความจุจำนวนมากเพื่อเก็บข้อมูล
“มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับชาวแอฟริกาในขณะนี้” Akinbo กล่าวว่า “มันเป็นการพิสูจน์ว่ามีเพียงผู้คลั่งใคล้ Bitcoin ที่ร่ำรวยในแอฟริกาเท่านั้นที่สามารถซื้อ node ได้”
อย่างไรก็ตามแต่ในวิสัยทัศน์ของ Chuta ทุกคนอาจไม่จำเป็นต้องเรียกใช้โหนดเอง บางทีอาจมีผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ที่จะดำเนินการแทนพวกเขา
“ประเด็นหลักของโปรเจคนี้ก็คือ การให้ความรู้และฝึกอบรมผู้ให้บริการโหนดที่มีความสามารถทั่วแอฟริกา ซึ่งจะช่วยให้ชุมชนเล็ก ๆ ยังคงอยู่ได้ต่อไป“ นาย Chuta กล่าว
เขาหวังว่าจะได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจางหายไป เนื่องจากการแพร่ระบาดทำให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ของ BlockSpace ได้รับความเสียหาย
“ทันทีที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จบลง เราจะเปิดตัวแคมเปญเต็มรูปแบบทันทีเพื่อสร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญตามวิสัยทัศน์ของเรา” นาย Chuta กล่าว
ที่มา : coindesk