อดีตผู้บริหารธนาคาร Goldman Sachs นาย Rob Koyfman ออกมากล่าวว่าราคา bitcoin นั้นมีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ตลาดซบเซามานานหลายเดือน
นาย Koyfman ผู้ที่กลายเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทด้านการวิเคราะห์ตลาดนามว่า Koyfin กล่าวว่าความพยายามในการพิมพ์เงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นของทางธนาคารกลางสหรัฐอาจส่งผลทำให้อำนาจของเจ้าสกุลเงินดังกล่าวหายไปในอนาคตและส่งผลทำให้ราคา bitcoin พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
“การที่ทาง Fed ออกมาทำ QE เพื่อพิมพ์เงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆงั้นอาจส่งผลทำให้เงินดอลลาร์ต้องมาถึงจุดเปลี่ยนได้ ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาเส้น trend line บนกราฟของเงินดอลลาร์นั้นวิ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในปี 1985, 2000 และอาจจะเกิดขึ้นในปี 2020 นี้ ซึ่งหากมันร่วงลงมาต่ำกว่าเส้น Trend line ดังกล่าวก็จะถือเป็นการยืนยันว่าเป็นขาลงของสกุลเงินดอลลาร์อย่างแท้จริง”
นาย Koyfman กล่าวว่าราคาของ bitcoin นั้นอยู่ในตำแหน่งที่มีแนวโน้มว่าจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงได้ในตัวของมันเอง และเขาเชื่อว่าการที่สกุลเงินดอลลาร์นั้นมีมูลค่าที่น้อยลงอาจส่งผลทำให้ราคาของ btc พุ่งขึ้นไปสูงกว่า 20,000 ดอลลาร์ได้
“ราคา bitcoin นั้นกำลังตั้งตัวเพื่อที่จะพุงขึ้นสูงไปมากกว่านี้ และการที่เงินดอลล่าอ่อนค่าลงก็มีแนวโน้มส่งผลทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้เร็วขึ้น เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาตลาด bitcoin นั้นอยู่ในช่วงสะสมตัวมาพักใหญ่แล้ว และมันพร้อมที่จะขึ้นไปสูงกว่านี้ การที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้นอาจเป็นตัวกระตุ้นทำให้ราคาของ bitcoin พุ่งทะลุแนวบ้านจนทำให้วิ่งขึ้นไปสูงกว่าระดับจุดสูงสุดเก่า”
ในขณะเดียวกันนักเทรดเหรียญคริปโตในตำนานนาย Josh Rager ก็คาดหวังว่าราคานั้นจะยังคงวิ่งขึ้นลง sideway ไปเรื่อยๆจนกระทั่งเราได้เห็นว่ามันจะเลือกข้างว่าจะไปฝั่งไหน พร้อมเผยว่าแนวรับของราคาที่สำคัญนั้นอยู่ที่ 9,250 ดอลลาร์
“ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักสำหรับ bitcoin จับตาดูราคาที่จะวิ่งไปหาระดับ 9,550, และ 9,800 ดอลลาร์สำหรับผู้ที่คาดว่าราคาจะขึ้น ส่วนผู้ที่คาดว่าราคาจะลงให้จับตาดูแนวรับที่ระดับ 9,250 ดอลลาร์ หากมันร่วงหนักเราอาจจะได้เห็นราคาลงมาที่ระดับ 8,000 ดอลลาร์ก็เป็นได้”
ในขณะที่รายงานข่าวอยู่นี้ราคา bitcoin มันอยู่ที่ 9,318 ดอลลาร์ ซึ่งร่วงลงมาๆ 0.05% จากในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา