ในเดือนมิถุนายน ราคาที่เพิ่มขึ้นมาส่วนใหญ่ของคริปโตเคอเรนซี่ถูกลบล้างด้วยการปรับฐานราคา correction และสกุลเงินส่วนใหญ่ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ Bitcoin กำลัง “ถูกบีบ” อยู่ในช่วงระหว่าง $ 9,000-10,000 ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีของมันอยู่ที่ 27% ซึ่งค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับเหรียญ altcoin บางตัวในตลาด โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำเหรียญ Altcoin ที่ให้ผลตอบที่ดีมานับตั้งแต่ช่วงต้นปี ซึ่งอ้างอิงจากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญแต่ละคน
นาย Victor Argonov นักวิเคราะห์จาก EXANTE
Ether (ETH, + 75%) เป็นเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และมีการเคลื่อนไหวที่คล้ายคลึงกับพี่ใหญ่ Bitcoin อย่างมาก แต่จะแตกต่างกันตรงที่มันมีความผันผวนมากกว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ETH เริ่มมีการเคลื่อนไหวที่สำคัญเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบสัญญา ETH Future ที่ถูกกฎหมายเป็นครั้งแรกที่มีไว้ให้สำหรับผู้เล่นระดับสถาบันบนเว็ปเทรด ErisX ในขณะเดียวกันธนาคารกลางสหรัฐก็กำลังพิจารณาอย่างจริงจังเกี่ยวกับการเปิดตัวมาตรฐานใหม่สำหรับอัตราดอกเบี้ย AMERIBOR ที่อยู่บนพื้นฐานของ ETH
Stellar (XLM, + 48%) เป็นเหรียญคริปโตกระจายอำนาจเช่นเดียวกับ Ripple โดยนับตั้งแต่ต้นปีโทเค็น XLM ได้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมามากกว่าครึ่ง ในขณะที่เหรียญ XRP มีมูลค่าลดลงกว่า 8% ซึ่งมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากความสนใจของนักลงทุนลดน้อยลง และนับตั้งแต่ปี 2018 มันถูกล้อมรอบไปด้วยเรื่องอื้อฉาวและในปี 2019 ก็มีการกดขี่ข่มเหงโปรเจคคริปโตขององค์กรทั่วโลกสำหรับสั่งปิดตัวลงของโปรเจค Libra และ TON รวมถึงการฟ้องร้องบริษัท Tether และ Ripple สิ่งนี้จึงได้เปลี่ยนให้นักลงทุนหันมาพึ่งพาระบบการกระจายอำนาจอย่างเช่น Stellar (XLM) แทน
Tezos (XTZ, + 76%) เป็นสกุลเงิน PoS นี้ที่ออกแบบมาเพื่อการทำ Staking บนเว็ปเทรดคริปโต Binance โดยให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 6-7% ต่อปี ในเวลาเดียวกัน ในขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง PoS ที่ใกล้เคียงกันที่สุดอย่าง (EOS, Cardano) XTZ นั่นมีความโดดเด่นในเรื่องของการใช้จำนวนเงินทุนที่ค่อนข้างต่ำ ท่ามกลางผู้คนที่ร่ำรวยที่สุด
Monero (XMR, + 41%) วันนี้มันเป็นเหรียญความเป็นส่วนตัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ความต้องการของเหรียญ XMR (รวมถึง Dash, Zcash) จะกระตุ้นความพยายามในการเข้าควบคุมของรัฐบาลในตลาดคริปโต
นาย Oleg Chebotarev นักข่าวและนักลงทุนคริปโต
มันเป็นไปได้ว่าในเดือนกรกฎาคมนี้ เกือบทุกประเทศจะยกระดับมาตรการจำกัดที่ใช้เชื่อมต่อกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าและเศรษฐกิจของโลก ดังนั้นนี่จะส่งผลดีต่อตลาดคริปโต
สำหรับการแนะนำ altcoins ที่มีอยู่ทั้งหมดในตลาด ผมบอกได้คำเดียวเลยว่าพอร์ตโฟลิโอของผมนั่นล้วนแต่สร้างขึ้นมาจากอากาศ โดยผมจะทำการวิเคราะห์เบื้องหลังของเหรียญคริปโตที่มีมูลค่าร่วงลดลงในระยะสั้น
ETH นั่นเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการลงทุนในระยะยาว มันเป็นเหรียญที่มีฟังก์ชั่นมากมายและมีโครงสร้างพื้นฐานที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งมีโอกาสที่จะนำผลตอบแทนมาสู่เจ้าของเหรียญ เนื่องจากจุดสูงสุดเดิมของมันนั่นอยู่ที่ระดับสูงถึง $1,500
นาย Sergey Mendeleev ผู้ก่อตั้งเว็ปเทรด Garantex
เมื่อมีคนถามผมถึงเรื่องคริปโตเคอเรนซี่ที่น่าลงทุน ผมจะถามตัวเองก่อนเสมอว่า คน ๆ นี้รู้อะไรเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่มาบ้าง และมันจะเป็นการดีกว่าพวกเขาควรศึกษาก่อนว่า คริปโตเคอเรนซี่นั้นคืออะไรแล้วค่อยทำการตัดสินใจในการลงทุนโดยอาศัยความรู้และความเข้าใจของพวกเขาเอง หากคุณสามารถทนเห็นการขาดทุนในพอร์ตของคุณได้ที่ระดับ 30-50% และไม่ Panic ตกใจเทขายสินทรัพย์อย่างบ้าคลั่ง คุณก็พร้อมแล้วที่จะลงทุนในตลาดแห่งนี้
ผมเชื่อว่าในตอนนี้มันคือ “ช่วงเวลาแห่งปัญหา” ในตลาดคริปโตเคอเรนซี่ บางคนเชื่อว่าการมาช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดกำลังใกล้เข้ามาใหม่แล้ว ในขณะที่คนอื่น ๆ เริ่มกังวลถึงการควบคุมที่เข้มงวดเกี่ยวกับคริปโคเคอเรนซี่และการล่มสลายของตลาด ทั้งสองสถานการณ์นั่นมีเป็นไปได้ทั้งคู่ ดังนั้นคุณจึงควรเลือกคริปโตเคอเรนซี่ที่มีความเสถียรมากที่สุด หากคุณพบมันแล้วก็คุณสามารถที่จะลงทุนกับมันได้ปลอดภัย
Bitcoin เป็นหนึ่งในคริปโตเคอเรนซี่ที่มีความเสถียรมากที่สุด และมันเป็นสินทรัพย์คริปโตตัวแรกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มันมีชื่อเสียงในฐานะโปรเจคที่ไม่หลอกลวง แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์บางกลุ่มจะเรียก bitcoin ว่าเป็นฟองสบู่หรือแชร์ลูกโซ่ก็ตาม ในระยะยาวผมมั่นใจว่า bitcoin จะมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่นี่เป็นการคาดการณ์ที่อาจใช้เวลาถึง 5-10 ปี ซึ่งก่อนที่จะถึงตอนนั้นราคา bitcoin อาจร่วงลงไปที่ระดับต่ำกว่า $ 3,000 หลายครั้ง
สำหรับเหรียญคริปโตอื่น ๆ ผมได้ให้ความสนใจไปกับเหรียญ TRON ซึ่งในใจของผมเชื่อว่ามาตรฐาน ERC-20 ของเหรียญ Stablecoin อย่าง Tethe นั่นกำลังเปลี่ยนจาก ERC-20 ไปเป็น TRC-20
ดังนั้นแล้ว ผู้ที่ต้องการเก็บเงินดอลลาร์แบบดั้งเดิม วิธีการที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการใช้เหรียญ USDT ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดคริปโต เนื่องจากการออมเงินด้วย USDT นั่นไม่จำเป็นต้องใช้ตู้เซฟนิรภัยหรือเก็บใต้ที่นอน พวกเขาสามารถเก็บพวกเขาใส่ไว้ในแฟลชไดรฟ์ขนาดเล็กได้อย่างง่ายดาย โดยมีรหัส 2 – 3 คำที่พวกเขาคิดว่าสามารถจำได้ นอกจากนี้ USDT ยังเหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจระหว่างคู่ค้าต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งพวกเขาสามารถใช้ทำธุรกรรมข้ามพรมแดนได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องมีการสื่อสารกับทางธนาคาร
นาย Igor Kuchma นักวิเคราะห์ของ TradingView
แม้ว่าผลตอบแทนของ Bitcoin จะเพิ่มขึ้นกว่า 31% นับตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่มันก็ไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าในปี 2020 นี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดของมัน ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ช่วยให้ราคาของมันพุ่งกลับขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ อย่างน้อยก็ในช่วงเวลานี้ นับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมราคาของ bitcoin ยังคงวิ่งไซด์เวย์ไปมาระหว่าง $ 9,000 ถึง $ 10,000 แม้ว่าจำนวน BTC ในเว็ปเทรดคริปโตจะยังคงลดลง ซึ่งบอกเป็นนัย ๆ แล้วว่าผู้คนถอน Bitcoin ของพวกเขาไปเก็บรักษาไว้ในระยะยาว แทนที่จะขายมันบนเว็ปเทรด
อย่างไรก็ตาม อ้างอิงจากรายงานที่ระบุไว้โดยผู้สื่อข่าวของ Bloomberg , Bitcoin ยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงไปทำ lower high สิ่งนี้จะช่วยให้เรามองเห็นความจริงที่ว่าช่วงวิกฤตเศรษฐกิจนั่นไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในคริปโต นอกจากนี้วัตถุประสงค์เดิมของ Bitcoin ยังคงเบี่ยงเบนไปจากผู้ที่สร้างมันขึ้นมาอีกด้วย เนื่องจาก Satoshi Nakamoto ต้องการสร้างระบบการชำระเงินที่โปร่งใสและมีการกระจายอำนาจโดยไม่ขึ้นตรงกับสถาบันการเงิน ตัวอย่างเช่น CEO ของเว็ปเทรด Kraken กล่าวว่า bitcoin มีคุณสมบัติที่เทียบเท่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในแง่ของการชำระเงินและมันก็มีคุณสมบัติที่ดีกว่าทองคำในแง่ของการเก็บสะสม แต่คำถามคือสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อราคายังคงมีความผันผวนที่ค่อนข้างสูง
จากมุมมองอื่น ๆ หากการควบคุมโดยรัฐบาลยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและในที่สุดเราก็พบว่ามีการเข้าแทรกแซงในคริปโตเคอเรนซี่ มันมีความเป็นไปได้สูงว่าความต้องการในคริปโตเคอเรนซี่ก็จะไม่เพิ่มขึ้นอีกต่อไป
เมื่อพูดถึงเรื่องเหรียญ altcoins ที่มีศักยภาพดีที่สุด ในมุมของผม ผมจะให้ความสนใจไปกับเหรียญ litecoin (LTC) ซะส่วนใหญ่ โดยเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มันมีการสร้างกระเป๋าเงิน wallets ที่ยอดคงเหลือมากกว่า 0 มากถึง 300,000 กระเป๋าเงิน อ้างอิงรายงานจากมูลนิธิ Litecoin Foundation นี่อาจเป็นเพราะความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับแพลตฟอร์มการให้กู้ยืมที่กำลังเป็นกระแสของแอปพลิเคชัน DeFi ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของกระเป๋า Litecoin ใหม่นี้ อาจสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้ใช้เพื่อรับประโยชน์จาก DeFi
สำหรับกรณีของ Etereum (ETH) มันอาจจะต้องสูญเสียตำแหน่งผู้นำไป หากมันยังไม่สามารถเปิดตัวการอัพเดต ETH 2.0 และแก้ไขปัญหาในเรื่องการปรับขนาดของเครือข่ายได้
ท้ายที่สุด ผมต้องการทราบว่านักพัฒนา IOTA (MIOTA) จะประกาศเปิดตัวเครือข่ายทดสอบสำหรับโปรโตคอล Coordicide หรือที่เราเรียกว่า IOTA 2.0 โปรโตคอลรุ่นใหม่ที่จะมาแทนที่ coordinating node และเพิ่มความเร็วให้กับเครือข่ายอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวซอฟต์แวร์ Hornet v.0.4.0 เวอร์ชั่นใหม่สำหรับผู้ให้บริการเว็ปไซต์และการอัพเดตเพิ่มแบนด์วิดท์ให้เครือข่ายสูงสุด 20 เท่า
ที่มา : ihodl