<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

วิจัยเผยการขุด Bitcoin แบบใช้เครื่อง ASIC 100% สามารถเพิ่มความปลอดภัยได้ 2,000 เท่า

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อเร็ว ๆ นี้การวิจัยใหม่เผยว่าการขุด Bitcoin แบบใช้เครื่อง ASIC 100% นั่นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับความปลอดภัยของเครือข่าย Bitcoin ในอนาคต

นาย Rod Garratt จากมหาวิทยาลัย Santa Barbara แห่งแคลิฟอร์เนียได้นำเสนองานวิจัยที่เขาร่วมกับนาย Maarten van Oordt นักวิจัยจากธนาคารแห่งประเทศแคนาดาในระหว่างการประชุม Unitize ในวันนี้

การวิจัยได้เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันของการโจมตี 51% Attack ในเครือข่าย Bitcoin ตามประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเพียงแค่เราเปลี่ยนไปใช้เครือข่ายที่มีการขุดด้วย Asic แบบ 100% เครือข่ายก็จะมีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอย่างมาก

เนื่องจากเครื่องขุด ASIC นั่นไม่มีประโยชน์ใด ๆ นอกจากเหนือไปจากการขุด Bitcoin และผู้โจมตีจะไม่สามารถรับผลตอบแทนจากการขายอุปกรณ์ที่ใช้ในการโจมตีได้มากนัก  ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้การโจมตีมีกำไร พวกเขาจะต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายขึ้นเป็นสองเท่าของปริมาณเหรียญที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีราคาแพงและยากที่จะทำได้

การวิจัยได้คาดการณ์ว่าสำหรับการโจมตีที่จะสามารถทำกำไรให้กับผู้โจมตี หลังจากการ Halving ในครั้งถัดไป มันจะต้องมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ระหว่าง 157,000 – 530,000 Bitcoin หากเราเปลี่ยนไปใช้เครือข่ายที่มีการขุดด้วย ASIC แบบ 100%

การโจมตี 51% Attack คืออะไร?

ปัจจุบันเทคโนโลยี Blockchain มีความนิยมที่กว้างขวางและหลากหลาย อาจกล่าวได้ว่าต้องขอบคุณ Bitcoin ที่มีส่วนช่วยในการสาธิตและนำร่องการใช้เทคโนโลยีอันแสนจะปลอดภัยดังกล่าว แต่ทว่าความปลอดภัยในการใช้ Blockchain ของ Bitcoin นั้นมันปลอดภัยแบบที่หลายๆคนเชื่อหรือเปล่า มันยังมีการโจมตีชนิดหนึ่งที่หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้จัก ถึงแม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีการโจมตีตัวนี้เกิดขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว แต่อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน โดยการโจมตีดังกล่าวมีชื่อว่า “การโจมตี 51 เปอร์เซ็นต์”

หากจะอธิบายให้เข้าใจว่ามันคืออะไร ก่อนอื่นทางสยามบล็อกเชนขอแนะนำให้ผู้อ่านทำความรู้จักกับ hash power ก่อน ซึ่งในเครือข่ายของการขุดเหรียญคริปโตนั้น จะมีนักขุดที่ใช้ทั้งเครื่อง ASIC และการ์ดจอในการขุดเหรียญที่ใช้อัลกอริทึมแบบ Proof of work ผู้ที่มีเครื่องมากกว่าย่อมมีกำลังขุดมากกว่า และผู้ที่มีกำลังขุดมากกว่าย่อมได้เปรียบมากกว่าในการกุมความเป็นไปของเครือข่าย Blockchain ดังนั้นการโจมตี 51 เปอร์เซ็นต์หมายถึงการที่กลุ่มนักขุดเหรียญกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ควบคุมพลัง hash ในการขุดของ Blockchain นั้นไว้มากกว่า 51% และใช้อำนาจนั้นในทางที่ไม่ดี ดั่งเช่น “การขุดแบบผูกขาด” หรือ Centralized mining จนต้องนำเอา MTP มาใช้แก้ปัญหานี้

เมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ทางกลุ่มนักขุดดังกล่าวสามารถเลือกที่จะไม่คอนเฟิร์มธุรกรรมให้คนอื่นได้ หรือแม้แต่ reverse เอาธุรกรรมเก่า ๆ ที่เคยถูกส่งไปแล้วกลับมาจ่ายใหม่ได้ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เกิดการ double spending หรือการ “จ่ายสองที” (เช่นคุณมีเงินยี่สิบบาทเอาไปซื้อขนม แล้วก็เอาเงินยี่สิบบาทนั้นกลับคืนมา ไปซื้อขนมอีกถุง รวมได้เป็นสองถุง) ซึ่งถือเป็นภัยอันตรายที่ร้ายแรงของเครือข่ายอย่างมาก

ความกังวลเรื่องความปลอดภัยของ Bitcoin

บางคนในชุมชน Bitcoin ไม่พึงพอใจเกี่ยวกับการใช้เครื่องขุด ASIC ในเครือข่าย ซึ่งสิ่งนี้ได้ก่อให้เกิดการ Fork เครือข่ายแยกออกเป็น 2 เส้นทางในปี 2017 และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของเหรียญ Bitcoin Gold ที่ต่อต้านเครื่องขุด ASIC นาย Garratt กล่าวว่านี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เหรียญ Bitcoin Gold นั่นถูกโจมตี 51% โดยมีค่าใช้จ่ายในการโจมตีอยู่ที่ 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ในขณะที่ Bitcoin ยังไม่เคยถูกโจมตีได้สำเร็จเลยสักครั้ง เนื่องจากการโจมตีใน Bitcoin มีค่าใช้จ่ายราคาแพงมากกว่า ซึ่งนี่ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญเช่นเดียวกัน

ผู้ที่มีส่วนร่วมในเครือข่าย Bitcoin บางคนเริ่มกังวลถึงเรื่องความปลอดภัยของเครือข่ายในระยะยาว เนื่องจากรางวัลบล็อกมีแนวโน้มจะถูกแทนที่ด้วยค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม

สิ่งที่อันตรายที่สุดอาจเกิดขึ้น เมื่อนักขุดต้องพึ่งพาค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมแทนรางวัลที่ควรจะได้รับจากบล็อก พวกเขาจะตอบสนองต่อความผันผวนของราคาจำนวนมาก ด้วยการสั่งปิดเครื่องขุดทั้งหมดและทำให้ค่าใช้จ่ายในการโจมตีเครือข่ายลดลงอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้นาย Garratt ยังกล่าวถึงประโยชน์สำหรับความปลอดภัยในด้านอื่น ๆ จากการใช้เครือข่ายที่ใช้ ASIC ขุดแบบ 100% อีกด้วย โดยเขากล่าวว่า นักขุดมีโอกาสน้อยมากที่จะปิดเครื่องขุดของพวกเขา เนื่องจากความผันผวนของราคานั่นได้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเครือข่าย

ที่มา : cointelegraph