<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ค่าธรรมเนียม Ethereum พุ่งสูงขึ้นกว่า 500% และทำไมมันส่งผลเสียต่อ ETH

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ดูเหมือนว่าเราจะได้เห็นการปรับตัวใช้แพลทฟอร์มของ Ethereum ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องมาจาก Decentralized Finance ( DeFi) ที่กำลังบูมอย่างมากในขณะนี้ โดยเราได้เห็นการเพิ่มขึ้นในตัวเลขของผู้ใช้งาน, address ที่กำลัง active และรวมถึงการทำธุรกรรมอีกด้วย

แต่โชคไม่ดีที่การเพิ่มขึ้นของผู้ใช้งานดังกล่าวนั้นจะต้องแลกมาด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น โดยข้อมูลจาก Glassnode หรือบริษัทด้านการวิเคราะห์ Blockchain เผยว่าอัตราค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum หรือว่าค่า gas นั้นได้พุ่งขึ้นสูงถึง 50 Gwei ไปแล้ว ซึ่งแพงกว่าที่เราเคยเห็นกันในเดือนเมษายนที่ผ่านมาถึง 5 เท่า และยังสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบางคนจะมองว่าการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้งานในเครื่อข่าย Ethereum ถือเป็นเรื่องดีต่อตลาดของมันในระยะยาว แต่บางคนก็ไม่คิดเช่นนั้น

ผลเสียต่อตลาด ETH

นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่าค่าธรรมเนียมที่เพิ่มสูงขึ้นมาดังกล่าวนั้นอาจส่งผลทำให้ ethereum ต้องพบกับการล่มสลายได้ในระยะยาว

นาย Qiao Wang หรืออดีตหัวหน้าฝ่ายด้านผลิตภัณฑ์จาก Messari ได้ออกมากล่าวผ่าน Twitter ของเขาว่า

“ตอนนี้ Ethereum 2.0 นั้นก็ยังไม่ถูกเปิดตัวออกมา ตอนนี้มันมีโอกาสที่โครงการ blockchain ที่มีความสามารถในการ scaling สูงจะสามารถมาโค่น Ethereum ได้ เพราะการจ่ายค่าธรรมเนียมที่แพงถึง 300 บาทและต้องรอจนกว่าธุรกรรมจะไปถึงปลายทางนั้นถือเป็น UX ที่ย่ำแย่อย่างมาก”

ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแต่นาย Qiao Wang เท่านั้นที่ออกมาบ่นเรื่องค่า gas ที่สูงของ Ethereum

ล่าสุดนี้นาย Steven McClurg หรือ CIO ของบริษัทด้านการบริหารจัดการเงินทุน Exponential Investments และนาย Leah Wald ได้ออกมากล่าวเมื่อช่วงต้นปีนี้ว่า

“ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับค่า gas นั้นได้สร้างการติดขั้นขึ้นมาในเครือข่าย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อมันอย่างมาก การติดขัดในเครือข่าย Ethereum นั้นส่งผลทำให้เกิดปัญหาด้านประสบการณ์การใช้งานที่แย่ในกลุ่มผู้ใช้งาน โดยเฉพาะนักเทรดบนตลาดที่มีความผันผวนสูงนี้ เพราะว่า position ที่พวกเขาเปิด leverage ไว้อาจจะถูก liquidate ไปก่อนที่พวกเขาจะเริ่มทำอะไรได้เสียอีก”

ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า Ethereum จะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ เมื่อ proof of stake ของพวกเขาจะถูกนำมาแทนที่ proof of work ใน Ethereum 2.0 ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่ามันจะถูกเปิดตัวขึ้นมาเมื่อไร หลังจากถูกเลื่อนไปหลายครั้งแล้ว