เส้นเทรนด์ไลน์ที่ก่อตัวขึ้นในกราฟรายวันเผยให้เห็นว่าราคากลายเป็นขาขึ้นในอีกไม่กี่วันนั้นหรือสัปดาห์ที่จะถึงนี้
ก่อนหน้านี้ราคาของ Bitcoin นั้นได้เกิดการ sideway ในตลาดมาอย่างรุนแรง ทำให้โมเมนตัมของมันนั้นเริ่มลดน้อยลงเรื่อย ๆ ในระดับที่ 9,000 ดอลลาร์
โดย channel บนกราฟของมันนั้นได้เกิดการ sideway ที่แคบลงมราเรื่อย ๆ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยเราจะสังเกตเห็นได้จากการสวิงของช่วงราคาที่ลดแคบลงมาเรื่อย ๆ ในระดับ 9,000-10,000 ดอลลาร์
การเคลื่อนไหวของลักษณะราคาดังกล่าวนั้นดูเหมือนว่าจะมีสาเหตุมาจากโวลุมในการเทรดและสภาพคล่องในตลาดที่ลดน้อยลงเรื่อย ๆ โดยเป็นที่คาดการณ์ว่านักเทรดส่วนใหญ่กำลังหันไปลงทุนในตัวเหรียญ altcoin กันมากกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์รายหนึ่งเผยว่าเขาคาดหวังว่าราคา Bitcoin นั้นจะ breakout ออกมาในอีก 3 วันที่จะถึงนี้ ซึ่งอาจทำให้เราได้เห็นเทรนด์ของราคาของมันในช่วงตลอดครึ่งปีหลังนี้ได้ในเร็ว ๆ นี้
ราคา Bitcoin ยังคงไซด์เวย์ต่อไปเรื่อย ๆ
โดยในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ ราคาของ Bitcoin นั้นกำลังถูกซื้อขายกันอยู่ที่ราคา 9,159.87 ดอลลาร์ อ้างอิงจาก Coinmarketcap
ราคาของ BTC นั้นได้วิ่งขึ้นลงอยู่ที่ระดับ 9,100 ดอลลาร์และ 9,200 ดอลลาร์มาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว และนักเทรดก็เริ่มที่จะเข้าตาจนไปเรื่อย ๆ ทุกที
ก่อนที่ระดับราคาจะร่วงลงถึงระดับดังกล่าว ก่อนหน้านี้ตลาด Bitcoin ได้มีการสร้างแชเนลที่ระดับราคา 9,000-9,300 ดอลลาร์มาก่อน
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของทิศทางที่ราคาจะไปต่อนั้นถือเป็นเรื่องที่ตอบค่อนข้างยาก ซึ่งเราก็จะต้องรอดูว่าราคานั้นจะสามารถทะลุผ่านเส้น descending trendline ที่ก่อตัวขึ้นมาหลายเดือนนี้แล้วได้
หากมันสามารถ break out ขึ้นไปข้างบนได้ เราก็อาจจะได้เห็นเทรนด์ขาขึ้นครั้งใหม่ของเหรียญดังกล่าวเลยก็ว่าได้
หนึ่งในนักวิเคราะห์ออกมากล่าวในทวิตเตอร์ล่าสุดของเขา โดยเผยกราฟด้านล่างนี้ให้เห็น
นักวิเคราะห์คาด Bitcoin จะเกิดการ breakout ในอีกไม่นานนี้
อีกหนึ่งนักวิเคราะห์ได้ออกมาเผยถึงสถานการณ์ของตลาด Bitcoin ในขณะนี้ โดยเขาได้ชี้ถึงระดับราคาที่สำคัญที่นักเทรดควรเฝ้ามอง รวมถึง Bollinger Bands ที่กำลังแคบลงเรื่อย ๆ เผยให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้
“การเบรคเอาท์ครั้งใหญ่ของ BTC จะเกิดขึ้นในอีก 3 วันนี้ ตามความคิดของผม” เขาอธิบายพร้อมเผยกราฟด้านล่างนี้
ตามที่เราเห็นในรูปด้านบน ดูเหมือนว่าเป้าหมายแรกนั้นจะอยู่ที่ระดับราคา 10,500 ดอลลาร์ เมื่อมันพุ่งแตะระดับดังกล่าวไปได้ แนวต้านในระดับที่สูงกว่านั้นก็จะเริ่มทำงานทันที ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันต่อไป