ก่อนหน้านี้ตลาด Bitcoin มักจะเผยให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องกับตลาดหุ้น โดยเฉพาะในช่วงจุดต่ำสุดของวิกฤตโรคระบาดไวรัสโคโรน่าในขณะนี้ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าตอนนี้สถานการณ์นั้นเริ่มที่จะเปลี่ยนไปแล้ว โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ความเกี่ยวข้องของตลาด Bitcoin และ S&P เริ่มแยกจากกันแล้ว
โดยปกติแล้ว Bitcoin นั้นมักจะมีภาพลักษณ์ที่ดูเหมือนเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและไม่ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ใดๆเลย นอกจากนี้ตัวแปรพื้นฐานของมันนั้นยังแตกต่างจากของตลาดหุ้นอีกด้วย แต่กระนั้นเหรียญ BTC ก็ยังเคยถูกตรวจพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดหุ้น S&P500 หลายต่อหลายครั้งในปีนี้
ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นเมื่อตอนที่พวกเราได้พบกับวิกฤตไวรัสโคโรน่าที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกต้องหยุดชะงักลง ภายหลังจากนั้นราคาของ bitcoin ก็ได้ร่วงลงมากกว่า 40% ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมงและหลังจากนั้นราคาของมันก็ได้มีการเคลื่อนตัวตามราคาของดัชนีตลาดหุ้น S&P500 ตามภาพด้านล่าง
ข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ด้านบล็อกเชนชื่อดังระดับโลก Skew แสดงให้เห็นว่าความเกี่ยวข้องกันระหว่างดัชนีตลาดหุ้น S&P500 กับราคา bitcoin นั้นมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมากที่สุดในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้
แต่อย่างไรก็ตามในช่วงที่ราคา bitcoin พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงเมื่อช่วงเมื่อวานนี้ส่งผลทำให้ความเกี่ยวข้องกันระหว่างตลาดเหรียญคริปโตดังกล่าวกับตลาดหุ้นของสหรัฐที่ว่านี้มีความแตกต่างและห่างไกลกันแล้วโดยราคาของ bitcoin นั้นได้พุ่งขึ้นมามากกว่า 80% ในขณะที่ราคาของตลาดหุ้น S&P500 นั้นยังคงอยู่ในช่วงที่ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก
ในขณะเดียวกันดัชนี Nasdaq Composite ที่มีการติดตามหลักทรัพย์กว่า 2,500 ตัวดูเหมือนว่าจะเผยเห็นว่ากำลังเป็นขาลงมากกว่าหุ้น S&P500 เสียอีก โดยมันได้ร่วงลงไปประมาณ 1.5 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
หลักทรัพย์ในสหรัฐราคาร่วงด้วยปัจจัยพื้นฐาน
ภายหลังจากที่ดัชนีหุ้น S&P500 ได้ร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปีเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมามันก็ได้มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นโดยหลักๆนั้นคาดการณ์ว่ามาจากกันพิมพ์เงินอัดฉีดของธนาคารกลางสหรัฐ
เมื่อช่วงเริ่มต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นดังกล่าวนั้นได้มีการติดบวกเนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการมาของวัคซีนรักษาโรคไวรัสโคโรนาที่ทำให้หลายๆคนมองตลาดเป็นด้านบวกนั่นเอง
อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาของตลาด S&P500 ก็ได้ร่วงลงมาประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ซึ่งส่งผลทำให้กราฟรายสัปดาห์นั้นร่วงลงมาประมาณ 0.6 เปอร์เซ็นต์ในขณะเดียวกันราคาของ bitcoin นั้นก็ได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
สาเหตุหลักๆที่ทำให้ราคาหุ้นในสหรัฐส่วนใหญ่ร่วงลงมานั้นคาดการณ์ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการที่รัฐสภาในสหรัฐยังไม่สามารถหาข้อยุติในเรื่องเกี่ยวกับการอัดฉีดเงินในรอบต่อไปได้ว่าจะอัดฉีดเงินเป็นจำนวนเท่าไหร่ โดยสำหรับการอัดฉีดเงินในรอบนี้กำลังจะหมดอายุลงภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ นอกจากนี้ความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลจีนเกี่ยวกับเกาะฮ่องกงก็ยังมีเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
จึงสามารถสังเกตเห็นได้ว่า bitcoin นั้นได้รับผลประโยชน์จากในส่วนนี้ ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีเลยทีเดียว