XRP เหรียญคริปโตที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกหากอ้างอิงจากมูลค่าตลาดดูเหมือนว่ากำลังมีราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมาราคาของมันไปพุ่งไปแตกจุดสูงสุดที่ 0.32 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่ตอนช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และการพุ่งขึ้นของมันนั้นส่งผลทำให้ราคายังคงยืนเหนือแนวรับได้อย่างสบายๆจนกระทั่งเมื่อวานนี้ราคามันร่วงลงมาเหลืออยู่แค่ 0.30 ดอลลาร์
แต่ดูเหมือนว่าราคานั้นจะไม่ได้ทำให้นักลงทุนรู้สึกเครียดเลยแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขานั้นรู้สึกไม่ดีเลยก็คือการเทขายเหรียญ XRP ของผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Ripple หรือนาย Jed McCaleb ที่ดูเหมือนว่ากำลังจะเทขายเหรียญทั้งหมดของเขาเพื่อทำลายตลาดนั้นเอง
ก่อนหน้านี้นาย McCaleb ได้ติดค้างเหรียญ XRP ที่ทางบริษัท Ripple จะต้องทำการโอนให้เขาเมื่อเขาลาออกจากบริษัท โดยหากพูดง่ายๆก็คือเขาร่วมก่อตั้งบริษัทก่อนที่จะลาออกนั้นเอง โดยเขาได้ตกลงที่จะเทขายเหรียญบางส่วนต่อปีเพื่อที่จะไม่ให้ราคานั้นร่วงอย่างรุนแรงมากเกินไป
ภายหลังจากที่เขาได้มีการเปลี่ยนแปลงสัญญากับทางบริษัท Ripple เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมาส่งผลทำให้นาย McCaleb สามารถเทขายเหรียญเป็นจำนวนนึกได้ต่อวัน โดยเขาได้ออกมาเขียนบนเว็บไซต์ว่าการทำสัญญาใหม่ดังกล่าวส่งผลทำให้เขานั้น “สามารถเพิ่มอัตราการเทขายเบื่อมีวอลลุ่มสูงขึ้น บางอย่างที่เขาไม่เคยสามารถทำได้มาก่อน”
ในขณะเดียวกันวอลุ่มการซื้อขายก็ได้เพิ่มขึ้นด้วย โดยเมื่อวานนี้มีเหรียญ XRP ที่ถูกซื้อขายกันไปในตลาดประมาณ 5.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจำนวนพี่มากที่สุดหากนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และคิดเป็นจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์มากกว่า volume ซื้อขายตะวันในปี 2016
Whale Alert หรือเครื่องมือบนทวิตเตอร์ที่ช่วยตรวจจับการโอนเหรียญของเจ้ามือได้ออกมาโพสต์แสดงให้เห็นถึงการเทขายเหรียญของนาย McCaleb ที่มีมากขึ้นถึง 266 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้เทียบกับปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังค้นพบอีกด้วยว่าจำนวนเหรียญที่เขาเทขายต่อวันนั้นอยู่ที่ประมาณ 1.74 ล้านเหรียญหรือคิดเป็นประมาณ 374,200 ดอลลาร์
ดังนั้นคำถามที่ตามมาก็คือว่านาย McCaleb ต้องการที่จะทำลายตลาดหรือไม่ ในขณะนี้ก็ยังไม่มีใครรู้
อีกหนึ่งคำถามก็คือความต้องการหรือแรงจูงใจที่แท้จริงของเขาในการเทขายเหรียญ XRP ที่เพิ่มมากขึ้นต่อวันนั้นคืออะไร ทำไมเขาถึงไม่รอให้ราคาพุ่งขึ้นไปสูงกว่านี้ก่อนแล้วถึงค่อยเทขายเพื่อที่จะให้ได้กำไรเยอะ
ทำไมเขาถึงไม่ถือเหรียญดังกล่าวในระยะยาวหรือนำไปแลกเป็นเหรียญคริปโตอื่นๆที่ดูมีความน่าเชื่อถือมากกว่าอย่างเช่น bitcoin ไม่ขณะนี้ก็ไม่มีใครรู้สึกก็ต้องรอดูกันต่อไป