<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักลงทุนถามทำไมราคาเหรียญ Ethereum Classic ถึงไม่เหลือ $ 0 หลังถูกโจมตี 51%

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Ethereum Classic (ETC) ซึ่งเป็นเหรียญที่ถูก Hard fork แยกออกมาจาก Ethereum ยังไม่ได้เห็นการระงับบัญชีเงินทุนที่เกี่ยวข้องกับการแฮ็ก DAO แต่อย่างใด ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมและช่วงต้นเดือนสิงหาคม มีการพูดคุยอย่างมากถึงเรื่องการโจมตี 51% บนเครือข่าย blockchain การโจมตี 51 เปอร์เซ็นต์นั่นคือการที่กลุ่มนักขุดเหรียญกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ควบคุมพลัง hash ในการขุดของ Blockchain ไว้มากกว่า 51% และใช้อำนาจนั้นไปในทางที่ไม่ดี โดยสิ่งนี้จะอนุญาตให้มีการจัดระเบียบโครงสร้างของ chain ขึ้นมาใหม่ การโจมตี 51% จะสามารถเปิดการใช้งาน “double-spending” เพื่อทำให้ผู้ให้บริการหรือผู้ใช้เกิดความเข้าใจผิดว่าได้รับเงินปลายทาง แต่จริง ๆ จำนวนเงินนี้กลับถูกใช้ไปแล้ว

การโจมตีครั้งที่สองเกิดขึ้นในวันพุธที่ 5 สิงหาคม อ้างอิงรายงานจากผู้ให้บริการ mining pool ‘Ethermine’ และ Binance ที่เผยว่า เหรียญ ETC จำนวนกว่า 800,000 เหรียญ (มูลค่าประมาณ 5.6 ล้านดอลลาร์) ถูกใช้ชำระเงินซ้ำซ้อน (double-spent) ในขณะที่ต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ใช้สำหรับการโจมตีนั่นมีมูลค่าเพียง $ 204,000 เท่านั้น

ด้วยความจริงที่ว่าการโจมตี 51% ทั้งสองครั้งเกิดขึ้นห่างกันเพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ทำให้หลายคนต่างออกมาตั้งคำถามถึงมูลค่าที่แท้จริงของเหรียญ ETC ซึ่งตอนนี้ยังคงเป็นเหรียญที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดเป็นอันดับที่ 25 ของตลาดคริปโต อ้างอิงข้อมูลจาก Coinmarketcap

ทำไม Etereum Classic ถึงไม่มีมูลค่าเหลือ $ 0 ?

นาย Dan Tapiero นักลงทุนระดับสูงและผู้ก่อตั้ง Gold Bullion Int. ได้โพสต์ถามเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมว่า ทำไมเหรียญ Ethereum Classic ถึงไม่มีค่าเหลือ 0 หลังจากที่มันถูกแฮ็คในครั้งล่าสุด :

“เพราะเหตุใดเหรียญ ethereumclassic จึงไม่มีค่าเป็น 0 ? และนอกจากนี้ปัจจุบันมันยังมีมูลค่าตลาดสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์อีกด้วย ทำไมเราถึงควรเป็นเจ้าของเหรียญ Altcoins ที่สามารถถูกโจมตีและขโมยได้ง่าย ๆ ในเมื่อเรามีตัวเลือกอื่น ๆ มากมาย สกุลเงินดิจิทัลควรมีความปลอดภัยมากกว่านี้ หรือว่าผมพลาดอะไรไป”

คำถามที่น่าสนใจของนาย Tapiero ถูกสะท้อนโดยนาย Mati Greenspan อดีตนักวิเคราะห์ระดับอาวุโสของ eToro และผู้ก่อตั้ง Quantum Economics ที่ตั้งคำถามว่า “ETC มีมูลค่าขึ้นมาได้อย่างไร ?” นาย Greenspan ถามเพื่อตอบสนองต่อข่าวการแฮ็คในครั้งล่าสุด

โพสต์ทวีตของนาย Greenspan ได้รับความสนใจจากผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก โดยบางคนได้รู้สึกเห็นด้วยกับคำถามของเขา

นาย Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้งโปรเจค Ethereum ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ETC ควรเปลี่ยนมาใช้อัลกอริทึ่ม Proof of Stake (การ staking) เนื่องจากมันมีความปลอดภัยที่มากกว่า Proof of Work ( การขุด) แต่อย่างไรก็ตามในบางกรณีเขากล่าวว่า :

“ETC ควรเปลี่ยนไปใช้ proof of stake และถึงแม้มันอาจมีความเสี่ยงบ้างในบางกรณี แต่ถึงกระนั้นมันก็มีความเสี่ยงที่น้อยกว่าการที่ไม่ใช้มันเลย”

ความหวังสุดท้ายของ ETC

แม้ว่า ETC อาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หลังจากการโจมตีดังกล่าว แต่ด้วยการเปิดตัวการอัปเกรด “Phoenix” ในเดือนมิถุนายน สิ่งนี้จะช่วยให้ Ethereum Classic มีโปรโตตอลที่มีความเท่าเทียมกันกับ Ethereum 

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ แอพพลิเคชั่นที่สร้างขึ้นมาสำหรับ Ethereum ก็สามารถเข้ากันได้กับ ETC ด้วยเช่นกัน ดังที่นาย Terry Culver CEO ของ ETC Labs ได้ให้ความเห็นไว้เมื่อเดือนพฤษภาคมว่า :

“การอัปเกรดนี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่แข็งแกร่งของ Ethereum Classic ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเห็นพ้องตรงกันของชุมชนและบรรดาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ ETC การอัปเกรดในครี่งนี้ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ Ethereum Classic ซึ่งตอนนี้ชุมชนอยู่ในฐานะที่จะผลักดันนวัตกรรมให้มากขึ้นเพื่อการทำงานร่วมกันและให้การสนับสนุนด้านเทคนิคใหม่ ๆ แก่ชุมชนของ ETC และ ETH”

ที่มา : cryptoslate