หากคุณเป็นเจ้าของสกุลเงินคริปโตใด ๆ ก็ตาม คุณจะมีโอกาสที่ต้องใช้ที่อยู่ address หรือกระเป๋าเงิน wallet เสมอ แต่มันค่อนข้างสับสนใช่มั้ย ? ว่าจริง ๆ ทั้งคู่นั่นเป็นสิ่งเดียวกันหรือไม่ ในบทความนี้เราจะมาอธิบายเรื่องให้คุณเข้าใจมากขึ้น
ข้อเท็จจริงสำหรับเรื่องนี้ก็คือ กระเป๋าเงิน wallet และที่อยู่ address นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวกัน และความแตกต่างของทั้งสองก็สามารถทำความเข้าใจได้อย่างง่าย ๆ
ในบทความนี้เราจะมาอธิบายให้คุณทราบว่า ที่อยู่ address และกระเป๋าเงิน wallet นั่นคืออะไร ? และแตกต่างกันอย่างไร ? โดยไม่ต้องใช้รายละเอียดทางด้านเทคนิคเข้ามาเกี่ยวข้อง
ที่อยู่ Address
เมื่อเราพูดถึงคริปโตเคอเรนซี่อย่างเช่นเหรียญ Bitcoin ที่อยู่ address นั่นจะประกอบด้วยตัวอักษรและตัวเลขแบบคละ ๆ ปน ๆ กันไป
ปกติแล้วที่อยู่ address ของ Bitcoin จะประกอบไปด้วยอักขระที่เป็นตัวเลขและตัวอักษร 26-35 ตัวและโดยทั่วไปจะขึ้นต้นด้วยหมายเลข 1, 3 หรือ bc1 ยกตัวอย่างเช่น 1F1tAaz5x1HUXrCNLbtMDqcw6o5GNn4xqX
ที่อยู่ Address ทั้งหมดจะเป็นตัวแทนของที่อยู่ปลายทางบนเครือข่าย Bitcoin หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ Bitcoin address นั่นมีไว้สำหรับใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น คิดซะว่าเป็นการซื้อตั่วเครื่องบินแบบไปเที่ยวเดียว ไม่มีไฟลท์กลับ
ในช่วงแรกแนวคิดสำหรับการสร้างที่อยู่ Address ของ Bitcoin ก็คือ การทำธุรกรรมในแบบใช้ได้ครั้งเดียวและไม่ซ้ำใคร โดยผู้ใช้จะสามารถนำ Address ที่ได้รับมาเพื่อโอนเงินเข้ากระเป๋าเงิน Wallet ของตัวเอง หรือโอนไปยังเว็ปคริปโตเพื่อขายเป็นเงินเฟียตได้ และคิดว่าจะไม่กลับมาใช้ Address นี้อีกเป็นครั้งที่สอง (เนื่องจากทางผู้ให้ก็คงจะรู้ private key นี้แล้วเช่นกัน)
กระเป๋าเงิน Wallet
กระเป๋าเงิน Wallet นั่นจะมาพร้อมกับที่อยู่ Address ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งนี่เป็นสาเหตุที่บางครั้งอาจทำให้หลายคนเกิดความสับสนได้ ว่ามันคือ Address แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่
ถึงแม้ว่ากระเป๋าเงิน Wallet จะมาพร้อมกับที่อยู่ Address แต่สิ่งสำคัญก็คือ คุณต้องจำไว้ว่ากระเป๋าเงิน Wallet นั่นไม่ใช่ที่อยู่ Address
ความจริงก็คือว่า กระเป๋าเงิน Wallet อาจสร้างหรือ Generate ที่อยู่ Address (Public key) ขึ้นมาได้เรื่อย ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ แต่สำหรับที่อยู่ Address ที่กล่าวไปข้างต้นนั่นไม่ใช่ ดังนั้นมันอาจทำให้คุณเข้าใจผิดว่ากระเป๋าเงิน Wallet คือที่อยู่ Address
กระเป๋าเงินคริปโต Wallet จะเปรียบเสมือนกับพวงกุญแจซะมากกว่า เนื่องจากมันจะเก็บสำเนาของ private key และที่อยู่ address แต่ละอันเอาไว้ ซึ่งถ้าหากเป็นกระเป๋าเงิน Wallet ที่ดี มันก็ควรสร้างหรือ Generate ที่อยู่ address ขึ้นมาใหม่โดยอัตโนมัติ สำหรับการทำธุรกรรมในแต่ละครั้ง
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของเหรียญ Bitcoin หรือ Ethereum รวมถึง cryptocurrency ตัวอื่น ๆ สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ เพียงแค่เปิดใช้งานกระเป๋าเงิน Wallet ของคุณเพื่อเข้าถึงที่อยู่ Address ต่าง ๆ ที่อยู่ภายในนั้น เพื่อคัดลอก , ฝาก หรือถอนเงิน และยังสามารถใช้งานได้เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ต่างจากที่อยู่ Address ที่กล่าวไปข้างต้นที่ส่วนใหญ่มักใช้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
อย่างที่คุณรู้ ๆ มา มันมีหลายวิธีที่คุณสามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิตอลของคุณได้ ไม่ว่าจะบนเดสก์ท็อป , บราวเซอร์ , หรือกระเป๋าเงิน wallet แบบที่จับต้องได้ ซึ่งปกติแล้วมักถูกเรียกว่า “cold storage” กระเป๋าเงิน Wallet แบบกายภาพ ที่มีความปลอดภัยมากกว่า เนื่องจากมันอยู่ในโหมดออฟไลน์และไม่เสี่ยงต่อการถูกแฮ็คนั่นเอง
ที่มา : thenextweb