เมื่อไม่นานมานี้นาย Lark Davis ผู้มีอิทธิพลในชุมชน Bitcoin ได้เผยถึงยุคต่อไปของคริปโตเคอเรนซี่ โดยเขาเชื่อว่ามันมีโอกาสที่นักลงทุนจะได้รับผลกำไรมากถึง 100 เท่าหรือประมาณ 10,000%
นาย Lark Davis กล่าวว่าตลาดคริปโตยังคงเสนอโอกาสใหม่ ๆ และการทำกำไรต่อไป ในขณะที่มันยังมีการพัฒนาและขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากภาคการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ที่กำลังร้อนแรงในปัจจุบัน
“ดังนั้น non-fungible token (โทเค็นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว) จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในตอนนี้และอาจเป็นพื้นที่สามารถเติบโตได้อีกมหาศาลและแน่นอนว่ามันเป็นพื้นที่ที่เรา ในฐานะนักลงทุนควรให้ความสนใจกับมัน”
ตามที่นักวิจัยด้านคริปโตกล่าว NFT เป็นเหรียญโทเค็นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้ ซึ่งนี่แสดงให้ถึงความเป็นเจ้าของในสิ่งหนึ่ง ๆ บนโลกเสมือนจริง
“ fungible item คือสิ่งของที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของที่ศัพยภาพหรือมีมูลค่าเท่าเทียมกันได้ ยกตัวอย่างเช่นเช็คเงินดอลลาร์สามารถเปลี่ยนไปเป็นเงินดอลลาร์ได้ อย่างไรก็ตามบางอย่างเช่นตั๋ว non-fungible token นั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะแม้ว่าเราจะสามารถแลกเปลี่ยนตั๋วของเรากับตั๋วของคนอื่นได้ แต่มันจะไม่เหมือนกันทุกประการ บางทีตั๋วใบอื่นอาจเป็นหนังเรื่องอื่นหรือเป็นหนังเรื่องเดียวกัน แต่คนละช่วงเวลา…มันไม่เท่ากันโดยสิ้นเชิง และตั๋วแต่ละใบจะช่วยให้คุณเข้าถึงชุดประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร “
นาย Lark Davis อธิบายว่า NFT จะนำเสนอกรณีการใช้งานที่หลากหลายสำหรับนักลงทุนรวมถึงการเป็นเจ้าของผลงานศิลปะดิจิทัล , ไอเท็มในเกม เช่น ที่ดินเสมือนจริงและสกินตลอดจนถึง ของสะสมเช่นการ์ดและสัตว์เลี้ยงเสมือนจริง
นักวิจัยด้านคริปโต Lark Davis ยังเน้นย้ำอีกด้วยว่า NFT สามารถขยายขอบเขตการเข้าถึงของพวกเขาไปได้ไกลกว่าแค่ในขอบเขตศิลปะและวงการเกม Lark มองเห็นว่าโทเค็น non-fungible สามารถนำไปใช้ในเรื่องของลิขสิทธิ์ , ประกันภัยและโซลูชันสำหรับองค์กรอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงการทำใบแจ้งหนี้เพื่อนำไปใช้เป็นเงินกู้
ในขณะที่นักลงทุนที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในพื้นที่เกิดใหม่เพื่อซื้อ NFT แต่ Lark ได้เน้นย้ำถึงโอกาสพิเศษอย่างหนึ่งที่สามารถให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
“บางทีกรณีการใช้งานที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุดสำหรับ NFTs ก็คือกำลังจะเชื่อมต่อเข้ากับ DeFi Maker DAO ที่กำลังดำเนินการผสมผสานรวมเข้ากับลิขสิทธิ์เพลงและใบกำกับภาษีเข้าสู่แพลตฟอร์มของตน สิ่งที่ผมกำลังจับตาดูอยู่นี้เรียกว่า Persistence ซึ่งนี่คือผู้เล่นรายใหม่ที่ได้จับมือกับ Cosmos ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การนำองค์กรเข้าสู่ทั้ง NFT และ Defi”
ที่มา : dailyhodl