ในขณะนี้กระแสสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในบ้านเรา และเราได้เห็นเว็ปเทรดและบริษัทฟินเทคมากมายที่พร้อมใจกันออกมาเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เพื่อหวังจะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งเค้กก้อนนี้และนำเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับนักลงทุน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นการแข่งขันวงการเว็ปเทรดเหรียญ Token เริ่มร้อนระอุมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยล่าสุดเว็ปเทรดอีกราย ‘อีอาร์เอ็กซ์’ เพิ่งการมีการประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์มเทรดโทเคนดิจิทัล ที่ชูจุดแข็ง ระบบกลไกที่ช่วยคุ้มครองนักลงทุนและตั้งเป้าเป็นเว็ปเทรดโทเค็นดิจิทัลอันดับ 1 ในไทยและผู้นําในภูมิภาคเอเชีย
เว็ปเทรดโทเค็นดิจิทัลแห่งแรกในไทยที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต.
นายปิ่นปราชญ์ จักกะพาก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จํากัด (ERX) เปิดเผยว่าหลังจากที่อีอาร์ เอ็กซ์ ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังในการดําเนินธุรกิจและอนุญาตให้ประกอบธุรกิจการเป็น ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) จากสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563
ปัจจุบันอีอาร์เอ็กซ์พร้อมแล้วที่จะเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนเพื่อเตรียมซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทโทเคนดิจิทัล (Digital Token)
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ERX นั้นแตกต่างจากผู้ให้บริการซื้อขายรายอื่น ๆ ด้วยการเลือกที่จะยื่นขอใบอนุญาตเฉพาะการเป็นศูนย์ซื้อขายโทเคนดิจิทัลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยไม่รวมกับสกุลเงินดิจิทัล ( Cryptocurrency) เนื่องจากบริษัทมองว่าโทเค็นดิจิทัลเป็นรูปแบบการลงทุนที่มีการอ้างอิงกับสินทรัพย์การลงทุนปกติ (Traditional Asset) ทําให้ง่ายต่อการเข้าใจของผู้ลงทุนทั่วไป อีกทั้งยังมีระบบกลไกการรักษาความปลอดภัยและการคุ้มครองผู้ลงทุนในทุกโทเค็นที่มีการซื้อขาย
“ด้วยจุดแข็งของอีอาร์เอ็กซ์ ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่ของ อีอาร์เอ็กซ์ ก็คือ บริษัทเอเลเวตเท็ด รีเทิร์นส์ (Elevated Return : ER) ซึ่งเป็นบริษัทผู้มีความชำนาญในธุรกิจลงทุนอสังหาริมทรัพย์และด้านสินทรัพย์ดิจิทัลจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีประสบการณ์ในการออกโทเค็น Aspen Coin อ้างอิงจากทรัพย์สินของโรงแรม The St. Regis Aspen Resort ด้วยมูลค่าการระดมทุน 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (https://www.aspencoin.io) รวมถึงทำงานร่วมกับเทโซส (Tezos) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบล็อกเชนระดับโลก และการทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรอย่างบริษัท เอสอี ดิจิทัล จำกัด ซึ่งได้รับความเห็นชอบให้ประกอบธุรกิจผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล ( ICO Portal) จาก ก.ล.ต. ร่วมสร้างมิติใหม่แห่งการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล” นายปิ่นปราชญ์ กล่าว
สำหรับการลิสต์เหรียญโทเค็นดิจิทัลขึ้นบนแพลตฟอร์มนั้น นายปิ่นปราชญ์ กล่าวว่า โทเค็นดิจิทัลที่จะเข้ามาซื้อขายในแพลตฟอร์มของอีอาร์เอ็กซ์นั้นจะมีอยู่สองรูปแบบก็คือ โทเค็นเพื่อการลงทุน (Investment Token) ซึ่งจะกําหนดสิทธิในการร่วมลงทุนในโครงการหรือกิจการที่คล้ายกับหลักทรัพย์หรือหน่วย ลงทุน หรือมีสินทรัพย์จริงหนุนหลัง ถัดมาก็คือโทเค็นเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility Token) ซึ่งถูกกําหนดสิทธิที่ ผู้ถือจะได้รับสิทธิในสินค้าและบริการต่างๆ หรือสิทธิอื่นๆ ตามที่ได้กําหนดไว้อย่างเฉพาะเจาะจง ซึ่งจุดเด่น ของการแปลงสินทรัพย์เดิม เช่น อสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์สินทางปัญญา หรือโครงสร้างพื้นฐาน ให้อยู่ในรูปแบบของโทเคนดิจิทัลเพื่อช่วยให้มีต้นทุนในการดําเนินการที่ต่ำลงทําให้นักลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น และเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีเงินลงทุนจํานวนไม่มากสามารถเข้ามาร่วมลงทุนได้
ประวัติที่มา
บริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จํากัด (ERX) ดําเนินธุรกิจศูนย์ซื้อขายที่เน้นแต่โทเคนดิจิทัลแห่งเดียวในประเทศไทยและ มุ่งสู่การเป็นผู้นําในภูมิภาคเอเชีย ก่อตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ปัจจุบัน (ตุลาคม 2563) โดยมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 85 ล้านบาท (สูงกว่าเกณฑ์ที่กําหนด) และมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือบริษัทเอเลเวลเท็ด รีเทิร์นส์ (Elevated Return : ER) บริษัทผู้มีความชํานาญในธุรกิจลงทุนอสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัลจากประเทศสหรัฐอเมริกามีประสบการณ์ในการออกโทเคน Aspen Coin อ้างอิงจากทรัพย์สินของโรงแรม The St. Regis Aspen Resort ด้วยมูลค่าการระดมทุน 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่างบริษัท เอสอี ดิจิทัล (SE Digital) ซึ่ง ได้รับความเห็นชอบให้ประกอบธุรกิจผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) จาก ก.ล.ต. ที่ เน้นในการออกผลิตภัณฑ์โทเคนดิจิทัลมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสากลและมีกลไกในการ คุ้มครองนักลงทุน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://er-x.io/
ข้อสรุป
หลังจากที่ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ได้จับมือ KBTG เปิดตัวแพลทฟอร์มลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะทำให้ผู้ให้บริษัทเว็ปเทรดในไทยเริ่มตื่นตัวและมีการเคลื่อนไหวกันมากขึ้น
อย่างไรก็ตามการเปิดตัวเว็ปเทรดของ ERX นั้นเรียกไม่ได้ว่าเป็นเว็ปเทรดคริปโตแบบเต็มปาก เนื่องจากบริษัทจะมุ่งเน้นที่การซื้อขายโทเค็นดิจิทัล ซึ่งไม่ใช่เหรียญโทเค็นคริปโตแบบที่เรารู้จักอย่างเช่น Bitcoin , Ethreum หรือ XRP ดังนั้นการเปิดตัวในครั้งนี้จึงอาจจะไม่ถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลของผู้ให้บริการเว็ปเทรดคริปโตรายอื่น ๆ ในประเทศไทย