วงการคริปโตเริ่มสั่นคลอนมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังเว็ปเทรด Bitmex ถูก CFTC ยื่นฟ้องคดีทางแพ่งและกระทรวงยุติธรรมยังได้ตั้งข้อหาคดีอาญากับผู้ก่อตั้ง BitMEX ในข้อหาอำนวยความสะดวกในการฟอกเงินและธุรกรรมที่ผิดกฎหมายอื่น ๆ
ในขณะนี้เว็ปเทรดคริปโตฟิวเจอรส์ที่ตั้งอยู่ในเกาะเซเชลส์กำลังที่เป็นที่ถกเถียงกันอย่างรุนแรง หลังบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลด้านคริปโต Chainalysis กำหนดสถานะให้ BitMEX เป็นเว็ปเทรดที่มี “ความเสี่ยงสูง” โดยข้อมูลภายนอกชี้ให้เห็นว่านักลงทุนได้พากันถอน bitcoin ออกจาก Bitmex ไปแล้วเกือบ 50,000 BTC นับตั้งแต่นั้นมา
Chainalysis ได้ออกคำเตือนไปยังลูกค้าของพวกเขา รวมถึงหน่วยงานของรัฐบาล ,ธนาคารและตลาดหลักทรัพย์ โดยแจ้งให้พวกเขาทราบว่าเว็ปเทรดใด ๆ ที่มีการฟ้องร้องทางอาญานั้นควรได้รับการพิจารณาว่า ‘มีความเสี่ยงสูง’ นับตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคมเป็นต้นไป
ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่า BitMEX ได้สูญเสีย Bitcoin ไปแล้วกว่า 45,000 BTC นับตั้งแต่ต้นเดือน ซึ่งคิดเป็นตัวเลขที่ลดลงกว่า 27% ของ bitcoin ที่มีอยู่ทั้งหมดบนเว็ปเทรด
“ในวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันถัดมาหลังการประกาศของ BitMEX พบว่ามีการถอนเหรียญคริปโตต่อวันสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนรีบแห่ถอนเงินพวกเขาออกจากแพลตฟอร์มที่มีความเสี่ยง” นักวิเคราะห์ของ Glassnode เขียนระบุในรายงาน
นอกจากนี้ข้อมูลจาก Skew ยังพบด้วยว่า สัญญา Ethereum Future บนเว็ป Bitmex นั้นลดลงกว่าครึ่ง นับตั้งแต่ผู้ก่อตั้งถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งข้อหา
“จากกรณีของ BitMEX มันแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจด้านคริปโตจำเป็นต้องดำเนินงานอยู่ภายใต้กฎระเบียบด้านการเงินที่มีอยู่เท่านั้น” นาย Anatoliy Knyazev ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทการลงทุน Exante กล่าวผ่านทางอีเมลและเขายังกล่าวเสริมด้วยว่า
“หน่วยงานของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าภาคคริปโต รวมถึงทุกตรอกซอกซอยของธุรกิจสีเทานั้นอยู่ภายใต้การควบคุมและจะต้องปฏิบัติตามกฎของพวกเขาเท่านั้น”
ที่มา : forbes