<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผลสำรวจชี้นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นภายในอีกหนึ่งเดือน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ราคา Bitcoin นั้นได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง นับตั้งแต่แตะจุดต่ำสุดเมื่อช่วงสองสัปดาห์ก่อน โดยปัจจุบันเหรียญคริปโตเบอร์หนึ่งของโลกมีซื้อขายกันอยู่ที่ระดับ $ 13,050 ซึ่งถือว่าเป็นจุดสูงสุดในรอบ 2 ปี

อย่างไรก็ตามมีบางคนกล่าวแย้งว่า Bitcoin นั้นอาจมีการซื้อมากเกินไปหรือกำลังอยู่ในจุด Overbrought โดยนักเทรดรายหนึ่งเพิ่งได้ตั้งข้อสังเกตว่าตัวชี้วัด Fisher Transform รายวันของ Bitcoin นั้นอยู่ในจุดสูงสุด นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม พฤษภาคมและกุมภาพันธ์ของปีที่ผ่านมา

Bitcoin จะพุ่งขึ้นอย่างจริงจัง ภายในอีกหนึ่งเดือน

แม้จะมีทฤษฏีออกมาโต้แย้งมากมาย แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าราคา BItcoin จะยังคงพุ่งสูงขึ้น ภายในอีก 1 เดือนนับจากนี้

Real Vision สื่อการเงินชั้นนำ เพิ่งได้เปิดเผยรายงานผลสำรวจฉบับล่าสุดที่ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้โดยเฉลี่ยมีแนวโน้มในขาขึ้นหรือขาลงมากน้อยเพียงใดในสินทรัพย์ดิจิทัล

ดังที่เห็นได้จากภาพด้านล่าง นักลงทุนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่ดีเกี่ยวกับ Bitcoin และคาดหวังว่าสินทรัพย์จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 5% ภายในเดือนข้างหน้านี้ :

“ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มองว่าหุ้นและสกุลเงิน (USD, EUR, AUD) จะปรับตัวลดลงเล็กน้อย หุ้นสหรัฐฯและ EM เติบโตเพิ่มขึ้นกว่าบริษัทคู่ค้าในยุโรปเล็กน้อย และผลตอบแทนจากพันธบัตรคาดว่าจะลดลงเช่นกัน แต่มุมมองเกี่ยวกับ Bitcoin ยังคงเป็นบวกมาก ในขณะที่ทองคำคาดว่าจะเพิ่มขึ้น แต่ศักยภาพในกลับตัวคาดว่าจะน้อยกว่า (ระยะสั้น) Bitcoin เป็นอย่างมาก”

นอกจากนี้ ผลการสำรวจอีกฉบับยังพบด้วยว่า 80% ของผู้ใช้ Real Vision ทั้งหมดนั้นกำลังเปิด Long Position Bitcoin อยู่ในขณะนี้

ปัจจัยพื้นฐานในเชิงบวก

ปัจจัยพื้นฐานบ่งชี้ว่าสกุลเงินดิจิทัลยังมีช่องว่างให้เติบโตได้อีกมาก ภายในเดือนข้างหน้านี้

นาย Bill Barhydt  CEO ของ Abra ได้ให้ความเห็นเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าเขาได้ลงทุนใน Bitcoin เพิ่มขึ้นคิดเป็น 50% ของพอร์ตแล้ว เนื่องจากเขาเชื่อว่ามูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง :

“ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ลงทุนใน #Bitcoin เพิ่มขึ้นอย่างมากและตอนนี้มันคิดเป็น 50% ในพอร์ตการลงทุนของผมแล้ว ทำไมนะหรือ? เพราะผมเชื่อว่า #Bitcoin เป็นโอกาสในการลงทุนที่ดีที่สุดของโลกสำหรับตอนนี้ โดยมีเหตุผลสามประการซึ่งก็คือ ปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์ด้านเทคนิคและความเชื่อมั่น”