<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ตัวอัปเกรดใหม่ของ Tezos ลดค่าธรรมเนียมสัญญา smart contract ลง 75% หวังดึงดูดนักพัฒนา DeFi ใช้งานมากขึ้น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในวันนี้ Tezos ได้ประสบความสำเร็จในการอัพเกรด “Delphi” ซึ่งมีเป้าหมายที่จะปรับลดค่าธรรมเนียม smart contract ลง 75% เพื่อดึงดูดนักพัฒนา DeFi ให้เข้ามาต่อยอดโปรเจคของพวกเขาบน Tezos

ตัวอัพเกรด Delphi ได้รับการเสนอเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก Nomadic Labs, Metastatic และ Gabriel Algour โดยมีจุดประสงค์เพื่อ “ช่วยเหลือบุคคลในการพัฒนาสัญญา smart contract บน Tezos”

อ้างอิงข้อมูลจากโพสต์ของนักพัฒนา Delphi ที่ระบุว่า การอัปเกรด Delphi เป็น “หัวใจสำคัญในการเปิดใช้งานแอปพลิเคชันใหม่บน Tezos ที่กำหนดเป้าหมายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เช่น DeFi ของสะสม NFT และเกม”

“ขนาดและความซับซ้อนของสัญญา smart contracts นั้นมีข้อจำกัดในเรื่องของค่าธรรมเนียม Gas ดังนั้นผู้คนที่ต้องพัฒนาสัญญา smart contract จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงข้อจำกัด เหล่านั้นในบางครั้ง”

Tezos เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนเจเนเรชั่นที่สี่ที่ใช้กลไก proof-of-stake และการอำนวยความสะดวกในพัฒนา smart contracts และ dApp

เป้าหมายหลัก ๆ ของ Tezos ก็คือการพัฒนา “บล็อกเชนที่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง” โดยใช้กลไกบน On-chain อย่างเป็นทางการเพื่อนำเสนอการทดสอบและเปิดใช้งานการอัปเกรดโปรโตคอลโดยไม่ต้องพึ่งพาการ Hard Fork

การอัปเกรด Delphi นั้นยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณก๊าซ รวมถึงการลดต้นทุน base cost ในการดำเนินงานจาก 10,000 เหลือ 1,000 gas units และการใช้โมเดลต้นทุนค่าธรรมเนียมใหม่สำหรับประเภทการตรวจสอบและ IOs

ด้วยการอัปเกรดนี้ บล็อกของ Tezos จะสามารถทำธุรกรรม XTZ ที่เร็วขึ้นกว่าเดิมสามเท่าและโอนสินทรัพย์อื่น ๆ ได้เร็วเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ในขณะที่สัญญาสามารถดำเนินการภายในได้เร็วมากขึ้นถึง 10 เท่า 

นอกจากนี้การอัปเกรด Delphi ยังช่วยลดต้นทุนการจัดเก็บเหรียญ Tezos ได้ถูกลงถึงสี่เท่าจาก 1 XTZ เหลือ 0.25 XTZ ต่อกิโลไบต์ โดยในขณะนี้เขียนรายงานอยู่นี้ XTZ มีการซื้อขายอยู่ราคา $ 2.06 

การอัปเกรดเพิ่มเติมที่สร้างขึ้นในฟีเจอร์ใหม่ของ Delphi คาดว่าจะเสนอโดย Nomadic Labs ในช่วงต้นเดือนธันวาคมปีนี้

Tezos ดำเนินการเสนอขายเหรียญ ICO ครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2017 โดยระดมทุนได้กว่า 232 ล้านดอลลาร์ ก่อนที่จะเปิดตัว mainnet ในเวอร์ชั่น Beta ในอีกหนึ่งปีต่อมา