หลังจากใช้เวลานานกว่าสามปีในช่วงตลาดขาลง เหรียญคริปโตที่ถูกล้อจนกลายเป็นเรื่องตลกเมื่อเปรียบเทียบกับเหรียญขยะและอื่น ๆ อีกมากมาย XRP ได้สร้างความตกใจให้กับผู้คนทั้งอุตสาหกรรมด้วยการพุ่งขึ้นกว่า 225% ภายในเดือนเดียว แต่การพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงนี้อาจเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น อ้างอิงตามตัวชี้วัดทางเทคนิค
โดยในบทความนี้เราจะมาพูดถึง 5 ปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงของราคาและเพราะเหตุใดการเคลื่อนไหวจึงมีแนวโน้มที่จะยั่งยืนในอนาคต
XRP พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเกือบแตะ 1 ดอลลาร์บน Coinbase
ในช่วงเช้าตรู่ของวันนี้เหรียญคริปโตอันดับสามของโลกได้ผลักดันราคาให้พุ่งจนแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 0.90 ดอลลาร์บนเว็บกระดานเทรด Coinbase
ก่อนหน้านี้ XRP มีการซื้อขายอยู่ที่ระดับต่ำสุดแถว ๆ 0.20 ดอลลาร์ ซึ่งนั่นหมายความว่า มูลค่าของมันเพิ่มขึ้นมากว่าสามเท่าจากระดับต่ำสุดจนถึงปัจจุบัน
การพุ่งขึ้นอย่างกระทันหันเริ่มต้นขึ้น หลังจาก Ripple เปิดเผยว่ากำลังจะซื้อเหรียญ XRP กลับคืนและมีข่าวแพร่สะพัดเกี่ยวกับเหรียญ Airdrop โทเค็น Spark ที่กำลังจะมาถึง
และในขณะที่ราคาของ XRP พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว นักวิเคราะห์ด้านเทคนิคก็ได้ออกมาชี้ให้เห็นว่าช่วงขาขึ้นเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
ดัชนี RSI ในกรอบ TF รายสัปดาห์กำลังเข้าสู่อาณาเขตของช่วงขาขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ราคาได้แตะจุดสูงสุดของขอบเขตนี้ถึง 3 ครั้งก่อนที่ราคาจะร่วงลดลง
ครั้งแรกที่ราคาได้เข้าสู่บริเวณนี้ มันก็ได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงและดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง ROI สูงถึงเกือบระดับ 900% รวมถึงดัชนี RSI กราฟ TF รายสัปดาห์ที่สูงขึ้นแตะระดับ 95 ซึ่งบ่งชี้ราคาอยู่ในโซนซื้อมากเกินไป
ปัจจุบันระดับ RSI ในกราฟ TF รายสัปดาห์ของ XRP อยู่ที่ระดับ 88 และนั่นชี้ให้เห็นว่า XRP ยังมีพื้นที่ให้เติบโตได้อีกมากมาย ในช่วงที่อยู่อาณาเขตของช่วงขาขึ้น 1 ใน 3 อีกทั้งยังมีกราฟด้านบนที่แสดงให้เห็นว่า MACD เพิ่งเบรคตัวขึ้นอย่างช้า ๆ และเพิ่งเปลี่ยนกลายเป็นสีเขียว
เพราะเหตุใดการพุ่งขึ้นของราคาในครั้งนี้ถึงเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
ด้วยดัชนี RSI ที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและยังมีพื้นที่เติบโตได้อีกมาก รวมถึงตัวชี้วัด MACD ที่เพิ่งกลับตัวเป็นขาขึ้นและปัจจัยอื่น ๆ อีก 2 ประการที่บ่งชี้แล้วว่าราคาจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อไป
ในกราฟรายสัปดาห์ ราคายังขึ้นแตะเส้นด้านบนของตัวชี้วัด Bollinger Bands อย่างต่อเนื่อง เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นในช่วงขาขึ้นครั้งล่าสุดเป็นอย่างมาก ซึ่งท้ายที่สุดสิ่งนี้ได้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นกว่า 34,000% ในอีกหนึ่งปีต่อมา
นอกจากนี้ตัวชี้วัด Bollinger Bands ยังเลียนแบบสัญญาณที่ได้รับจากกลุ่มเมฆ Ichimoku โดยเมื่อ XRP ได้เบรคทะลุผ่านกลุ่มเมฆครั้งสุดท้าย มันก็ได้เข้าสู่ช่วง Bullrun อย่างเป็นทางการ
ปัจจุบัน XRP สามารถกลับมายืนเหนือกลุ่มเมฆในกรอบ TF รายสัปดาห์ได้อีกครั้งและในไม่ช้าเหรียญ Altcoin ที่ทุกคนเรียกว่า ‘ขยะ’ อาจจะไม่ถูกทิ้งเกลื่อนตามถนนอีกต่อไป