นาย Michael Saylor หรือ CEO ของบริษัทด้านการลงทุนระดับโลก MicroStrategy ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯอยู่ในขณะนี้ได้ออกมาเผยถึงการที่ Bitcoin นั้นมีโอกาสจะมีราคาเพิ่มขึ้นถึง 100 เท่าจากจุดปัจจุบัน
โดยอ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ของเขากับนาย Changpeng Zhao หรือ CEO ของ Binance นั้น นาย Michael กล่าวว่า Bitcoin จำเป็นที่จะต้องละทิ้งข้อเสียที่มันมีออกไปอย่างเช่นความผันผวน, การเป็นสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร, และการเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะกับการเจียดเงินแค่ 1-2% ของพอร์ทมาลงทุนออกไปให้ได้เสียก่อน มันถึงจะกลายมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (safe haven) ที่ดีที่สุดได้
“ภาพลักษณ์ของการเป็นสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรนั้นมันมีมาตั้งนานก่อนเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้แล้ว แต่นั่นมันก็จะไม่สามารถดึงดูด 99% ของนักลงทุนหรือเม็ดเงินจากทั้งโลกนี้มาได้ พวกเขาต้องการบางอย่างที่แตกต่างออกไป พวกเขาต้องการ ‘Bitcoin นั้นถือเป็นสินทรัพย์สังเคราะห์ขั้นสุดยอด และเป็นตัวเก็บมูลค่าระยะยาว’ อะไรแนว ๆ นี้มากกว่า มันจะต้องเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ถูกออกแบบเชิงวิศวกรรมมาอย่างดี และจะต้องดีกว่าทองคำในทุก ๆ แง่ของการเป็นตัวเก็บมูลค่า และหากผมสามารถโยกย้ายเม็ดเงินไปหาสินทรัพย์แบบนี้ได้ ผมจะไม่พูดถึงการลงทุนด้วยเงินเพียง 1% ของพอร์ทอีกต่อไป ผมพูดถึงการดึงดูดเงินราว ๆ 50% ของนักลงทุนทั้งหมดบนโลกนี้”
หากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง เขาคาดการณ์ว่าผู้คนจะแห่กันโยนเงินเข้ามาในตลาดและทำให้ราคาของมันพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรง และทำให้มูลค่าตลาดรวมของมันนั้นเพิ่มขึ้นอีกด้วย
“นักลงทุนที่พวกเราต้องการจะดึงดูดให้เข้ามาในตลาดนั้นก็คือผู้คนที่เคยลงทุนในทองคำ เพราะว่าพวกเขาไม่ให้ความไว้วางใจในระบบการเงินของรัฐบาล และตลาดนั้นก็มีขนาดอยู่ที่ราว ๆ 10 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวแปรนั้นอยู่ที่ราว ๆ 20-50 เท่าเลยทีเดียว
ส่วนนักลงทุนกลุ่มที่สองก็คือผู้คนที่ลงทุนในพันธบัตร ซึ่งมีอัตราหนี้ผลตอบแทนอยู่ที่ 17 ล้านล้านดอลลาร์ คือ 100 ล้านล้านดอลลาร์ของ 0-3% ของหนี้ผลตอบแทน ทำไมคุณถึงอยากจะลงทุนในพันธบัตรหรือเงินของประเทศ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยแท้ ๆ
และพวกเขาก็จะแสดงอารมณ์แบบว่า ตลาดนั้นดูน่ากลัวมาก และพวกเขาก็จะหนีไปลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ในตลาดคริปโตที่จะมอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยขั้นสุดยอดในระยะยาว ดังนั้นพวกเขาจะได้วิ่งไปลงทุนมัน แทนที่จะได้ไปลงทุนในหนี้ของประเทศ และนั่นจะทำให้คุณได้กำไรที่ 10, 20, 30 เท่า
และท้ายสุด คุณจะต้องดูกลุ่มนักลงทุนสายเทคโนโลยี คือคุณสามารถที่จะกล่าวได้ว่ามีผู้คนเป็นจำนวนมากที่ใช้หุ้นเทคโนโลยีของ Tesla, Apple, Amazon เพื่อเป็นตัวเก็บมูลค่า และพวกเขาได้สูญเสียความเชื่อมั่นในสกุลเงินหลักไปแล้ว พวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่สามารถลงทุนในพันธบัตรที่มีอัตราผลตอบแทนติดลบได้ พวกเขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับผลตอบแทนของทองคำอีกด้วย”
นาย Michael เชื่อว่าทองคำนั้นล้าสมัยไปแล้ว และไม่ถือเป็นคู่แข่งที่ดีต่อ Bitcoin
“ทองคำนั้นมันมีจุดบอกพร่อง มันเป็นตัวเก็บมูลค่าที่เก่าเกินไป มันเคยเป็นตัวเก็บมูลค่าที่ดีมาถึง 5,000 ปีจนกระทั่งพวกเราสามารถสร้างคอมพิวเตอร์ขึ้นมาได้ มันเคยเป็นแนวคิดที่ดีจนกระทั่งมันกลายเป็นแนวคิดที่ไม่ดีไปแล้ว”