หลังจากที่มีการประท้วงครั้งรุนแรงในไนจีเรีย ทางรัฐบาลได้ห้ามผู้ประท้วงทำการสนับสนุนการชุมนุมด้วยธุรกรรมการเงินผ่านทางธนาคารทำให้ผู้ประท้วงหลีกเลี่ยงไปใช้สกุลเงิน Bitcoin ในการสนับสนุนแทน
Bitcoin มูลค่ากว่า $400,000 ถูกซื้อมาเพื่อเป็นงบสนับสนุนในการประท้วงครั้งนี้ โดยรวมแล้ว 5 ปีที่ผ่านมามีการซื้อขายกว่า 60,215 BTC หรือเป็นมูลค่ากว่า 566 ล้านดอลลาร์ ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขาย Paxful ในประเทศไนจีเรีย และในปี 2020 ที่ผ่านมาที่มีการซื้อขายกันกว่า 20,500 BTC
ซึ่งในปี 2020 กำลังซื้อขายได้เพิ่มขึ้นถึง 30% หลังจากมีการ Lockdown ระหว่างช่วงการระบาดของ COVID-19 สอดคล้องกับแพลตฟอร์ม Paxful ที่รายงานว่ามีจำนวนผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนเพิ่มขึ้นมากถึง 137% และปัจจุบันมีผู้ใช้งานอยู่ประมาณ 1.3 ล้านคน ซึ่งผู้จัดการ Paxful ประจำพื้นที่ประเทศไนจีเรีย นาง Nena Nwachukwu ได้กล่าวว่าการซื้อขายที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นการโอนเหรียญ Bitcoin จากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งซึ่งสะดวกกว่าการใช้เงินสดอย่างยิ่ง
ด้วยความขาดเสถียรภาพของหน่วยเงิน Naira ประเทศไนจีเรีย ประกอบกับหน่วยเงินไนจีเรียมีมูลค่าคู่ขนานกับดอลลาร์สหรัฐฯ และทางรัฐบาลไนจีเรียได้มีการจำกัดปริมาณเงินสดป้องกันการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลภายในประเทศกับดอลลาร์สหรัฐฯ จึงทำให้มีความเหมาะสมที่จะทำการซื้อขายหน่วยเงิน Bitcoin เป็นอย่างยิ่ง
ผู้ร่วมก่อตั้ง Buycoins Africa นาย Eleanya Eke กล่าวว่าผู้คนต้องการซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนกับสิ่งต่าง ๆ ระหว่างประเทศ และหากช่องทางทั่วไปถูกสกัดกั้นไปแล้ว Bitcoin ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่จะใช้แลกเปลี่ยนได้ดี และมันแทบไม่สามารถหาแนวทางขัดขวางได้เลยในขณะนี้ ต่อให้สามารถปิดแพลทฟอร์มแลกเปลี่ยนได้ ผู้คนก็จะเปลี่ยนไปซื้อขายกันแบบ Peer-to-Peer ซึ่งนั่นแทบไม่มีทางป้องกันได้เลย
โดยปัจจุบันได้มีการใช้งานหน่วยเงินกันอย่างทั่วถึงผ่านแฟลตฟอร์มแลกเปลี่ยนจำนวนมากอาทิเช่น Paxful และ Binance เป็นต้น และยังมีการซื้อขายแบบ Peer-to-Peer กันผ่าน Telegram และ WhatsApp อีกด้วย
ที่มา: Quartz Africa