<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Chainlink อาจเป็นเหรียญคริปโตตัวต่อไปที่จะถูกก.ล.ต.สหรัฐฯ ฟ้อง อ้างอิงจากผู้เชี่ยวชาญ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ทีมงานของ Zeus Capital ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ChainLink (LINK) และผู้ก่อตั้งโปรเจคอาจต้องเผชิญกับชะตากรรมเดียวกันกับ Ripple ในไม่ช้านี้ โดยเขาได้ทำนายว่า : 

“ราคา XRP ร่วงลดลงกว่า 15% และใครจะเป็นรายต่อไป ? คำใบ้ : บางสิ่งบางอย่างที่มีความเป็น Centralized อย่างมาก”

ในช่วงเมื่อวานนี้ Zeus Capital ได้แสดงความคิดเห็นต่อทวีตของนักเทรดระดับตำนาน Tone Vays ซึ่งเขาชี้ให้เห็นว่า ‘XRP นั้นเป็นหลักทรัพย์นับตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว’ และทีมงานของ Ripple ก็รู้ดีมาโดยตลอด 

นาย Anthony Pompliano ผู้ร่วมก่อตั้ง Morgan Creek Digital ได้ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่าง Ripple กับ SEC โดยเขาได้พูดเหน็บแหนมบนทวีตเตอร์ของเขาว่า “อรุณสวัสดิ์ทุกคนยกเว้นคนที่คิดว่าสามารถขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้รับการจดทะเบียนแล้วจะหนีรอดไปได้” โดยทีมงานของ Zeus Capital ได้ตอบกลับทวีตของเขาโดยบอกใบ้เป็นนัย ๆ แล้วว่า Chainlink และนาย Sergey Nazarov ผู้ก่อตั้งของโปรเจคนั้นกำลังเตรียมเผชิญชะตากรรมเดียวกันกับ Ripple

ในทวิตเตอร์ก่อนหน้านี้ Zeus Capital ได้กล่าวหาว่า Chainlink และ นาย Sergey ผู้ก่อตั้งโปรเจคว่าเป็นผู้รับผลประโยชน์โดยตรงจากการโจมตีแบบ Flash Loan บน DeFi ซึ่งจากข้อมูลของ Zeus การโจมตีแบบ Flash Loan บน DeFi นั้นถูกสร้างขึ้นโดยเจตนาในลักษณะที่คล้ายคลึงกับทฤษฎีสมคบคิด Big Pharma ที่เชื่อมโยงอยู่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

“การเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของ DeFi ทำให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์รูปแบบใหม่นั่นคือการโจมตี oracle มูลค่าหลายร้อยล้านที่ถูกขโมยผ่านการโจมตีแบบ Flash Loans อย่างไรก็ตามผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ตัวจริงกลับไม่ใช่แฮกเกอร์ แต่เป็น @Chainlink ซึ่งได้เพิ่มเงินมูลค่าหลายพันล้านใน MarketCap เพื่อรองรับความกลัวและความทุกข์ยากของนักลงทุน”

“ตามทฤษฏีของ Big Pharma โปรเจค Chainlink อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแสวงหาผลประโยชน์จาก DeFi ซึ่งดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมที่เพิ่งตั้งไข่จะเป็นเหยื่อล่อชั้นดีของกลุ่มคนโลภ”

จากที่กล่าวมาข้างต้นสรุปได้ว่า Zeus Capital คาดว่า Chainlink อาจจะถูกจัดประเภทให้เป็นหลักทรัพย์โดย SEC และผู้ก่อตั้งก็อาจถูกดำเนินคดีในที่สุด