ดูเหมือนว่าเหรียญ XRP นั้นจะสูญเสียอันดับ 4 ให้กับเหรียญ Litecoin อีกครั้งหนึ่ง ภายหลังจากที่มีคดีการฟ้องร้อง Ripple เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคดี แต่ครั้งนี้ไม่ใช่จากทาง SEC แต่เป็นจากทางนักลงทุนรายใหญ่ของ Ripple เอง
โดยในวันนี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่าบริษัทด้านการลงทุนยักษ์ใหญ่ Teragon ที่เป็นผู้ที่เคยเข้ามาลงทุนใน Ripple ในรอบ Series C เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา โดยได้พวกเขานั้นได้ยื่นฟ้องในศาล Delaware Chancery Court
โดยนักลงทุนของทาง Ripple ให้เหตุผลว่าพวกเขาต้องการ “บังคับใช้สิทธิ์ตามสัญญาเพื่อขอให้ Ripple ไถ่ถอน” หุ้น Series C นอกจากนี้ทาง Teragon ยังต้องการให้ศาลสั่ง Ripple ทำการอายัดเงินและสินทรัพย์ทั้งหมดไว้อีกด้วย จนกว่าทางบริษัทจะทำการจ่ายเงินให้พวกเขา
ภายหลังจากนั้นไม่นานทาง Ripple ก็ได้ออกมาตอบโต้การฟ้องร้องของทาง Teragon โดยกล่าวว่ามันไร้ซึ่งจรรยาบรรณ อีกทั้งยังกล่าวหา Tetragon ว่ากำลังใช้ความได้เปรียบท่ามกลางสถานการณ์ที่ข้อกฎหมายนั้นไม่มีความชัดเจนในประเทศสหรัฐฯเข้ามาฟ้องร้องพวกเขา
ก่อนหน้านี้ทาง Ripple เคยออกมาวิจารณ์รัฐบาลสหรัฐฯมาแล้ว เกี่ยวกับความไม่แน่นอนของข้อกฎหมายด้าน cryptocurrency ในประเทศ และเคยออกมาเผยว่าพวกเขามีแผนการที่จะเคลื่อนย้ายบริษัทออกไปนอกประเทศ เพื่อไปหาบ้านหลังใหม่ที่มีความชัดเจนทางด้านกฎหมายมากกว่านี้
ด้วยการที่ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรกแบบนี้ ส่งผลทำให้เหรียญ XRP นั้นสูญเสียอันดับที่ 4 ของโลกไปให้กับเหรียญ Litecoin ไปโดยปริยาย โดยอันดับดังกล่าวนั้นถูกวัดด้วยจำนวนมูลค่าตลาดของเหรียญ ซึ่งตอนนี้ของ XRP นั้นอยู่ที่ 1.03 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งตามหลังของ LTC อยู่ที่ 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์ อ้างอิงจาก Coinmarketcap
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทาง SEC ได้ยื่นฟ้อง CEO ของ Ripple นาย Brad Garlinghouse และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Chris Larsen ในข้อหาทำการขายเหรียญ XRP ที่เข้าข่ายเป็นการขายหลักทรัพย์โดยไม่ได้มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ภายหลังจากนั้นเว็บกระดานเทรดชั้นนำอย่าง Coinbase, Bittrex, OKCoin, Bitstamp, OSL, Beaxy, และ CrossTower ก็ได้เริ่มตีตัวออกห่างจาก XRP ทันที โดยบางรายนั้นถึงกับออกมากล่าวว่าจะปิดให้บริการเทรดเหรียญ XRP เลยทีเดียว
โดยในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ ราคาของ XRP นั้นอยู่ที่ 0.22 ดอลลาร์ ซึ่งร่วงลงมากว่า 70% จากช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา