ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาราคา Bitcoin ได้พุ่งแตะระดับ $40,000 ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นของราคากว่า 5% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ราคา 1 BTC มีมูลค่าเทียบเท่ากับทองคำแท่ง 20 ทรอยออนซ์ (ซึ่งเทียบเท่ากับทองคำหนัก 40.8 บาท หรือประมาณ 622 กรัม) ก่อนที่จะทำการปรับฐานราคามาอยู่ที่ระดับ $38,000
นักลงทุนในตลาดคริปโตมักกล่าวว่า Bitcoin นั้นเปรียบเสมือนทองคำดิจิทัลเพราะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของสินทรัพย์ทดแทนมูลค่าที่ดี เช่นเดียวกับทองคำ ซึ่งปัจจุบันทองคำแท่ง 20 ออนซ์มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ $38,240 หรือประมาณ 1.15 ล้านบาท
รองประธาบบริษัท DigiByte Foundation นาย Rudy Bouwman ได้ออกมากล่าวว่า “ในอนาคต Bitcoin จะเป็นเช่นเดียวกับทองคำ นั่นคือเป็นได้เพียงสินทรัพย์ทดแทนมูลค่า” ซึ่งการพุ่งขึ้นของราคาในครั้งนี้ต่างจากในปี 2017 อย่างสิ้นเชิงเพราะการขับเคลื่อนราคาให้พุ่งสูงขึ้นมาจากปัจจัยของนักลงทุนสถาบันเสียเป็นส่วนมาก ต่างจากนักลงทุนรายย่อยที่จะทำการซื้อเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้น ในขณะที่นักลงทุนสถาบันจะเป็นการซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาว หรือทำการถือครองเพื่อเป็นทรัพย์สินทดแทนมูลค่า
ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาราคา Bitcoin ได้พุ่งขึ้นมาถึง 378% ในขณะที่มูลค่าทองคำเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 21.6% เท่านั้น
นาย Peter Schiff เจ้าของฉายา “แมลงทองคำ” (Gold Bug) ได้ออกมายอมรับว่า ตัวเลขเหล่านี้กำลังแสดงให้เห็นว่า Bitcoin กำลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจากทองคำไปอยู่
ซึ่งเขายังได้ให้ความเห็นอีกว่า “จากการที่ Bitcoin สามารถดึงส่วนแบ่งตลาดจากทองคำไปได้นั้นทำให้ธนาคารกลางพอเบาใจลงได้บ้าง เพราะสิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดคือการพุ่งขึ้นของราคาทองคำอย่างรุนแรง ซึ่ง Bitcoin ได้เข้ามารับผลกระทบในส่วนนี้แทนแล้ว ทำให้เขาคาดการณ์ว่านักกฎหมายคงยังไม่ทำกระทำการใด ๆ ที่จะส่งผลให้ราคา Bitcoin เกิดฟองสบู่แตกในเร็ว ๆ นี้”
ที่มา: cointelegraph