ราคา Bitcoin นั้นได้วิ่งกลับไปที่ระดับ 40,000 ดอลลาร์ ก่อนที่จะมีแรงซื้อที่ดันให้มันพุ่งไปทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติกาลได้
โดยอ้างอิงจากนักวิเคราะห์จากบริษัท Material Indicators หรือบริษัทด้านการวิเคราะห์คริปโตชื่อดังนั้น เขาได้ออกมาเผยว่าเจ้ามือรายใหญ่หลายรายได้เทขาย bitcoin ของพวกเขาไปตอนที่ราคาพุ่งไปแตะ 40,000 ดอลลาร์อย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ราคานั้นร่วงลงไปถึง 10% ที่ระดับราา 36,000 ดอลลาร์ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงถัดไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากนั้นก็มีผู้ที่ออกมาช้อนซื้อ Bitcoin อย่างคับคั่งจนส่งผทำให้ราคา Bitcoin พุ่งกลับขึ้นมาอยู่เหนือ 41,000 ดอลลาร์ได้ในอีก 12 ชั่วโมงถัดมา อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นาน ราคา bitcoin ก็ได้มีการร่วงลงอีกครั้งหนึ่ง จนส่งผลทำให้ราคา Bitcoin วิ่งไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 42,000 ดอลลาร์ แต่หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ถูกเทขายอีกจนลงมาเหลืออยู่แค่ 38,980 ดอลลาร์ในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้
“ดูเหมือนว่าเจ้ามือขนาดใหญ่ัน้นเริ่มที่จะเทขายแล้ว หลังจากที่มีการทุบราคาตั้งแต่ช่วงเวลาตี 2 UTC ที่ผ่านมา และแรงเทขายนั้นก็กำลังมีมากขึ้นอีก ผมขอเดาว่าพวกเขากำลังคาดว่าราคาอาจจะร่วงลงไปมากกว่านี้อีก พวกเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการที่ราคาพุ่งกลับเข้ามาที่ 42,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สามารถรองรับแนวคิดดังกล่าวได้ดี”
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ราคานั้นได้ร่วงลงมาจาก 42,000 ดอลลาร์ไป 40,000 ดอลลาร์นั้น นาย Fred อธิบายว่าเจ้ามือรายย่อยที่ขาย Bitcoin ในโวลุมตั้งแต่ 100,000 ดอลลาร์ ถึง 1 ล้านบาทนั้นเริ่มที่จะ take profit กันแล้ว โดยเขากล่าวว่า
“อย่างไรก็ตาม พวกเขาเริ่มที่จะซื้อเหรียญกลับมากันอีกแล้ว และคาดว่าน่าจะทะลุระดับ 42,000 ดอลลาร์ได้ แต่ในครั้งนี้ดูเหมือนว่าเจ้ามือรายย่อย (สัดส่วน 1 แสนดอลลาร์ถึง 1 ล้านดอลลาร์) นั้นก็เริ่มที่จะ take profit แล้ว”
หากลองพิจารณาต้งแต่ตอนช่วงสัปดาห์จะพบได้ว่าราคา Bitcoin บน Coinbase นั้นมีอัตราพรีเมียมที่สูงกว่าทั่วโลก บ่งบอกว่าความต้องการส่วนใหญ่นั้นมาจากประเทศสหรัฐฯนั่นเอง
ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เห็นภาพในแง่ที่เจ้ามือรายย่อยเริ่ม take profit ในขณะที่นักลงทุนในสหรัฐฯเริ่มที่จะแห่เข้ามาในตลาดเพื่อซื้อ Bitcoin มากขึ้น นอกจากนี้การที่ราคานั้นเริ่มที่จะถูกดีดให้ตกลงมาทุกครั้งที่มีการทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติกาลมากขึ้นเรื่อย ๆ กำลังส่งสัญญาณบ่งบอกว่าเจ้ามือนั้นกำลังแข่งกัน take profit เรื่อย ๆ ทุกครั้งที่ราคาพุ่งนั่นเอง
ดังนั้นสิ่งนี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่าความต้องการใน bitcoin ในประเทศสหรัฐฯนั้นเป็นตัวที่ทำให้ราคา BTC ยังคงตัวได้อยู่ที่ระดับราคาดังกล่าวนี้ แต่นี่ก็อาจจะเป็นเพียงแค่ระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันต่อไป