ในสัปดาห์นี้ราคา Bitcoin (BTC) เปิดตัวด้วยราคาที่ต่ำกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งคาดการณ์ว่ามาจากการผลัดเปลี่ยนประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่จะสามารถดำเนินต่อไปได้พร้อม ๆ กับการประกาศเพิ่มอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ
ในวันนี้ราคา Bitcoin ได้ร่วงลงมา 12.67% โดยได้ทำราคาต่ำสุดอยู่ระดับประมาณ $33,300 โดยนักวิเคราะห์ได้มีการคาดการณ์กันว่าเป็นเพียงการปรับฐานราคาตามธรรมชาติของราคา Bitcoin หลักจากที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงตลอดเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
การปรับฐานราคาเป็นเรื่องปกติ
โดยผู้เขียนหนังสือ the Bullish Case for Bitcoin นาย Vijay Boyapati ได้กล่าวว่าการร่วงลงของราคากว่า 30-40% จากการพุ่งขึ้นของราคาอย่างผิดธรรมชาตินั้นเป็นเรื่องปกติ ซึ่งในปี 2017 ก็เคยมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้ว และเกิดขึ้นมาจากการพุ่งขึ้นของราคามาจากนักลงทุนรายย่อยที่จะเข้าซื้อทุกครั้งที่ราคาร่วงลงเล็กน้อย ในขณะที่ปี 2020 นั้นมีผลจากการเข้ามาของนักลงทุนสถาบันด้วย ซึ่งคาดว่าจะทำให้การปรับฐานราคานั้นไม่รุนแรงเท่าปี 2017
นาย Boyapati ได้อธิบายไว้ว่า “ในรอบนี้ตลาดขาขึ้นจะกลับมาหลังการปรับฐานราคาไปประมาณ 15-20% ซึ่งนี่น่าจะบ่งบอกได้ถึงความแตกต่างของนักลงทุนสถาบันในปัจจุบันกับนักลงทุนรายย่อยในปี 2017”
แต่ในขณะเดียวกันนักลงทุนบางส่วนได้เริ่มทยอยขาย Bitcoin หลังจากที่ธนาคารกลางได้เพิ่มอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลขนาด 10 และ 30 ปีให้สูงขึ้น ซึ่งคาดการณ์ได้ว่านักลงทุนเหล่านั้นจะเก็บเกี่ยวผลกำไรจากตลาดคริปโตก่อนจะนำไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อหาผลตอบแทนที่มั่นคง
แต่นั่นก็ยังไม่ใชเหตุผลทั้งหมดว่าเหตุใดราคา Bitcoin จะฟื้นตัวกลับมาได้ เพราะนักลงทุนก็ยังทราบดีถึงเป้าหมายของธนาคารกลางที่จะดันอัตราเงินเฟ้อให้สูงกว่า 2% ในปีที่จะถึง ซึ่งจะทำให้ราคา Bitcoin ปรับตัวสูงขึ้นอีก รวมไปถึงนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทำให้การซื้อ Bitcoin นั้นกลายเป็นทรัพย์สินทดแทนมูลค่าชั้นเยี่ยมอีกด้วย
อัตราการว่างงานที่ยังไม่ลดลง
ซึ่งจากผลการรายงานเรื่องปัญหาการว่างงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาพบว่าอัตราว่างงานยังคงพุ่งสูงขึ้นท่ามกลางสภาวะ COVID-19 ซึ่งประธานาธิบดี นาย Joe Biden ยังได้กล่าวอีกว่าจะใช้นโยบายจากทางการเงินสนับสนุนผู้ว่างงานในช่วงสภาวะ COVID-19 ซึ่งจะทำให้ค่าเงิน US Dollar อ่อนตัวลง และยังส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นาย Jerome Powell ยังงได้กล่าวว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้เคียง 0 และคาดหวังว่าจะมีการซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มากขึ้น เพื่อให้อัตราผลตอบแทนเริ่มลดลงและต่ำกว่า 1% ในภายหลัง
โดยแม้การว่างงานจะเพิ่มมากขึ้นแต่นาย Powell ก็ได้กล่าวว่าอัตราการจ้างงานนั้นก็สูงเต็มที่แล้วเช่นกัน ซึ่งจากปัญหาด้านการว่างงานที่ยังคงเพิ่มมากขึ้น สวนทางกับอัตราจ้างงานที่สูงสุดแล้ว จะทำให้ราคา Bitcoin สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ในอนาคตอันใกล้นี้
ที่มา: bitcoinist