บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ จำกัดได้ทำการร่วมงานกับ Bitkub Capital Group และ Satang Corporation เพื่อจุดมุ่งหมายที่จะเผยแพร่ถึงความน่าสนใจของการลงทุนในสินทรัพย์ Bitcoin ซึ่งคาดการณ์ว่าราคา Bitcoin จะฟื้นตัวกลับมาเป็นขาขึ้นอย่างแน่นอน และยังได้กล่าวถึงอนาคตของตลาดคริปโตในไทยอีกด้วย
ในวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ประธานกรรมการบมจ. ทรีนีตี้ วัฒนา นายภควัต โกวิทวัฒนพงศ์ และนายชาญชัย กงทองลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอนาคตของ Bitcoin ซึ่งพวกเขาได้กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ได้จับตามองตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว และท่าทีของนักลงทุนได้เปลี่ยนแปลงไปเมื่อ Bitcoin ได้มีการทำ All-Time-High (ATH) ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
สภาพราคา Bitcoin ในปัจจุบัน
พวกเขาคาดการณ์ว่าการทำ ATH ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนสถาบันเข้ามาลงทุนในตลาดคริปโตมากขึ้น ทำให้มีเม็ดเงินมหาศาลจากนักลงทุนสถาบันเข้าสู่ตลาดคริปโต ซึ่งสอดคล้องกับราคาที่พุ่งขึ้นของ Bitcoin ในขณะที่ Microstrategy และ Grayscale เพิ่มการลงทุนในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และจากสถานการณ์ที่ดอลลาร์อ่อนตัวพร้อม ๆ กับ Yield จากตลาดการลงทุนลดลงหลังจากสภาวะ COVID-19 และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2020
ซึ่งแม้ว่าราคา Bitcoin จะร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 10-11 มกราคมที่ผ่านมา แต่นายภควัตยังได้กล่าวว่า “โดยสถิติในแต่ละปีแล้ว เมื่อไรก็ตามที่ราคา Bitcoin ทำจุด High มันจะมีการถอยลงมาประมาณ 25%” ซึ่งหากนำมาประเมินคร่าว ๆ จากระดับราคาประมาณ $42,000 ก็จะร่วงกลับลงมาที่ระดับ $31,500
ปัจจัยที่จะส่งผลให้ราคา Bitcoin ยังคงเป็นขาขึ้นต่อไป
นอกจากนี้พวกเขายังได้กล่าวถึงปัจจัยที่จะส่งผลให้ราคา Bitcoin จะกลับมาเป็นขาขึ้นต่อ โดยคาดการณ์ว่ากำลังซื้อของนักลงทุนสถาบันจะยังไม่จบลงง่าย ๆ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ยังไม่เสถียรดีนักจากนโยบายการพิมพ์เงินอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันก็ได้มีการยอมรับ Bitcoin ในการใช้จ่ายมากขึ้นอีกด้วย
“ทางเรายังเชื่อว่าราคา Bitcoin เป็นขาขึ้นอยู่แม้อาจจะมีการพักตัวให้เห็นบ้าง ซึ่งหากเกิดขึ้น ก็เป็นจังหวะดีที่จะทำการเข้าซื้อสะสม … และจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคของเรายังเชื่อว่าเป็นขาขึ้นอยู่ โดยราคาจะไปถึงเท่าไรนั้นผมเองก็ไม่สามารถยืนยันได้”
อย่างไรก็ตามนายชาญชัย ยังกล่าวเตือนด้วยว่าแม้แนวโน้มขาขึ้นจะกลับมาในระยะยาวอย่างแน่นอน แต่ Bitcoin จะไม่ขึ้นอยู่ในทิศทางเดียวโดยอาจผันแปรตามธรรมชาติของตลาด อีกทั้งในปัจจุบันสภาพราคาในตลาดลงทุนส่วนใหญ่ยังสามารถผันแปรตามทิศทางของนักลงทุนรายย่อยอีกด้วย
“ผมว่า Fund Flow ในปัจจุบันเนี่ยต้องดูรายย่อยด้วยนะ เพราะเงินในระบบของพวกเขาก็ไม่น้อยเลย และทุกคนล้วนต้องการผลตอบแทนกันทั้งนั้น ซึ่งทำให้ Fund flow เหล่านี้สามารถเข้าไปในระบบใด ๆ ก็ได้เช่นกัน”
แนวทางของบริษัทและทิศทางของตลาดคริปโตในไทย
นอกจากเรื่องสภาพราคา Bitcoin แล้วทั้ง 2 ท่านยังได้กล่าวถึงแนวทางของบริษัท และทิศทางของตลาดสกุลเงินดิจิทัลในไทยที่กำลังจะดำเนินไปในอนาคตอีกด้วย
โดยปัจจุบันบริษัท Trinity ได้มีแนวทางที่จะร่วมมือกับก.ล.ต. และบริษัทต่าง ๆ ในไทยเพื่อจัดทำ ICO Portal ที่จะสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ต้องการที่จะเข้ามาทำ ICO (เปิดตัวเหรียญคริปโต) ซึ่งแม้ว่าจะไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมได้แต่ก็ขอให้ติดตามข่าวสารกันอย่างใกล้ชิดต่อไป
ซึ่งจากจุดนี้ทำให้พวกเขาคาดการณ์ว่า จากการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับตลาดดิจิทัลไว้มาก ก็เป็นไปได้ว่าทางตลาดหลักทรัพย์อาจเตรียมการเพื่อรองรับการซื้อขายเหรียญใหม่ ๆ ที่อาจจะมีการเปิดตัวในไทยอีกด้วย
ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ทางบริษัทยังได้เตือนนักลงทุนถึงการลงทุนใน Bitcoin ซึ่งสามารถเข้ามาลงทุนได้ง่าย โดยมีทุนเพียง 100 หรือ 500 บาทก็สามารถซื้อ Bitcoin ได้แล้ว แต่นักลงทุนก็ต้องพร้อมที่จะศึกษาถึงความเสี่ยงที่สามารถเกิดขึ้นในตลาดการลงทุนนี้ได้อีกด้วย ซึ่งพวกเขาพร้อมที่จะให้คำแนะนำนักลงทุนที่ต้องการเข้ามาในตลาด Bitcoin อย่างเต็มที่
ที่มา: บทสัมภาษณ์จากบริษัท Trinity