การเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin อย่างรุนแรงที่ทำให้กราฟเป็น Parabolic จนราคาวิ่งไปทำจุดสูงสุดเป็นประวัติกาลนั้น ทำให้ผู้คนเริ่มกลัวว่าจะเกิดภาพซ้ำแบบตอนปี 2017 ที่จะมีการร่วงเพื่อปรับฐานของราคาอย่างรุนแรง
เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ราคา bitcoin นั้นได้พุ่งไปทำจุดสูงสุดเป็นประวัติกาลที่ระดับราคา 41,940 ดอลลาร์ ก่อนที่จะร่วงลงมาเหลือแค่ 31,076 ดอลลาร์ ซึ่งลดลงมากว่า 28% ส่งผลทำให้นักวิเคราะห์และนักลงทุนรายย่อยเริ่มกลัวว่าตลาดนั้นถึงจุดอิ่มตัวแล้ว และอาจกลับตัวกลายเป็นขาลงได้ในหลังจากนั้น
ข้อมูลที่ผ่านมาในอดีตของ bitcoin นั้นเผยให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นของราคาในรูปแบบ parabolic นั้นมักจะตามมาด้วยการ correction หรือการร่วงลงของราคาอย่างรุนแรงในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนหลังปี 2017 เนื่องจากว่ารูปแบบตลาดในช่วงนี้เริ่มคล้ายกับของปี 2017 ไปปี 2018 อย่างมาก
นาย Timothy Peterson หรือผู้บริหารในบริษัทด้านการลงทุน Cane Island global ได้ออกมากล่าวว่า
“ความเสี่ยงของ bitcoin นั้นกำลังเริ่มเข้าใกล้ของระดับ 2017 แล้ว นักลงทุนที่ซื้อที่ราคาในระดับนี้อาจจะต้องสูญเสียเงินไปถึง 40% ของเงินลงทุนพวกเขาในอนาคต อย่างไรก็ตาม อัตรา drawdown นั้นอยู่ที่ 30% ดังนั้นความเสี่ยงนี้จึงสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยจากค่าเฉลี่ย”
นาย Peterson กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่าตอนนี้ตลาด Bitcoin นั้นอาจจะมีขาขึ้นมาให้เห็นได้ในระยะสั้น ๆ พร้อมกล่าวว่า
“ในการที่มูลค่าของ Bitcoin จะสามารถไปถึงที่ระดับ 2017 ได้นั้น มันจะต้องไปถึงอย่างน้อยที่ 80,000 ดอลลาร์ มันมีโอกาสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น และหากมันเกิดขึ้น มันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ราคาที่สูงขึ้นนั้นมักจะตามมาด้วยราคาที่สูงกว่าเสมอ”
ฟองสบู่หรือว่าแค่ปรับฐาน?
แม้ว่าจะมีความกลัวเกิดขึ้นมาในตลาดมากมาย และมือใหม่หรือเม่าหลายรายเริ่มที่จะมองว่าขาขึ้นของตลาดรอบนี้ได้จบลงแล้ว แต่ก็มีนักวิเคราะห์บางรายเท่านั้นที่เชื่อว่าการร่วงลงมาของราคาครั้งล่าสุดนั้นถือเป็นการปรับฐานเท่านั้น และเราอาจจะได้เห็นราคาที่พุ่งไปต่อได้ในเร็ว ๆ นี้
นาย Philip Swift หรือผู้ก่อตั้ง LookIntoBitcoin ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าการร่วงลงของราคาในครั้งล่าสุดนั้นเป็นเพียงแค่การปรับฐานเท่านั้น และมันจำเป็นที่จะต้องเกิดขึ้น พร้อมเสริมว่าตัวชี้วัดส่วนใหญ่ในตลาดนั้นได้กลายเป็นสีแดงแล้ว บ่งบอกว่าราคา bitcoin นั้นอยู่ในจุด extreme อย่างมาก
โดยเขากล่าวว่า
“ราคานั้นได้มีการร่วงลงไปที่จุดต่ำกว่า x3 multiple ที่ผมคาดการร์ว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปพักหนึ่ง ตามที่หลาย ๆ คนได้กล่าวไปแล้ว ราคานั้นมักจะพุ่งขึ้น x3 (มากกว่า x2) เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้เราได้เห็นวัฎจักรของตลาดที่บ้าคลั่ง ที่มาจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันนั่นเอง”
การวิเคราะห์ของนาย Swift นั้นบ่งชี้ว่าราคาของ Bitcoin นั้นอาจจะมีการ sideway ไปอย่างช้า ๆ และจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในระยะสั้น แต่จะไปอย่างช้ามาก ๆ เนื่องจากว่าเม็ดเงินของผู้ที่กำไรจาก bitcoin นั้นได้ย้ายไปอยู่ที่ altcoin ตามที่เราได้เห็นการพุ่งขึ้นของราคาของเหรียญคริปโตใน DeFi ก่อนหน้านี้นั่นเอง
ขาขึ้น Bitcoin นั้นอาจจะยังไม่จบลง
แม้ว่านักวิเคราะห์นั้นจะออกมากล่าวว่าเทรนด์ราคา Bitcoin ในตอนนี้จำเป็นที่จะต้องมีการพักตัวในระยะหนึ่ง แต่นักเทรดสายกระทิงนั้นก็ได้ออกมาชี้ว่าพวกเขามีแผนการที่แตกต่างออกไป ยกตัวอย่างเช่นในสัปดาห์นี้ แรงซื้อนั้นสามารถที่จะพยุงราคาไว้ที่แรวรับที่ต่ำกว่าได้ นอกจากนี้ยังมีการไหลเข้ามาของเงินของนักลงทุนสถาบันอีกด้วย โดยเฉพาะการเปิดรับนักลงทุนใหม่ของทาง Grayscale เมื่อไม่นานมานี้
หากเราลองดูกราฟอารมณ์ของตลาดจากในช่วง 30 วันโดยเฉลี่ยที่ผ่านมาเราจะเห็นว่ามันลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากจุดสูงสุด และยังอยู่เหนือกว่าระดับของอารมณ์ในช่วงขาลงที่ผ่านมาอีกด้วย
แม้ว่าจะมีไม่กี่คนที่รู้ว่าราคาของ Bitcoin นั้นจะเป็นอย่างไรในช่วงวันหยุดนี้ แต่ปัจจัยพื้นฐานที่เป็นด้านบวกอย่างเช่นการไหลเข้ามาของนักลงทุนสถาบัน หรือการออกมาประกาศที่เป็นด้านบวกของรัฐบาลนั้นอาจทำให้เราคาดการณ์ได้ว่าเมื่อไรก็ตามที่ราคาร่วงนั้น เราจะได้เห็นมือของนักลงทุนสถาบันเข้ามาช้อนซื้อราคาในจุดที่ต่ำเสมอ ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันต่อไป
ที่มา cointelegraph