ดูเหมือนว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาวอลุ่มซื้อขายบนเว็บเทรดในประเทศไทยจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนส่งผลทำให้เว็บเทรดอันดับ 1 ของไทยอย่าง Bitkub ต้องชะงักลง เนื่องจากปัญหาทางด้านเทคนิค
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้ผู้ใช้งานส่วนใหญ่รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมูลค่าของสกุลเงินนั้นมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสขายเหรียญได้ทันตอนราคาขึ้น และพลาดโอกาสเข้าซื้อตอนราคาร่วงลดลงนั่นเอง
อย่างไรก็ตามภายหลังที่เว็บกระดานเทรดคริปโตเบอร์หนึ่งในไทยปิดปรับปรุงไปนั้น ผู้ออกกฎหมายในไทยก็ได้ออกมามีคำสั่งให้ทาง Bitkub แก้ไขระบบเพื่อคุ้มครองนักลงทุนแล้ว
โดยอ้างอิงข้อมูลจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทยที่รายงานในวันนี้ นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกมากล่าวถึงกรณีของ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ (Bitkub) ว่า :
“ทางก.ล.ต. ได้มีมติให้ Bitkub แก้ไขระบบงานที่เป็นประเด็นปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน และในส่วนนี้ก็ต้องติดตามและให้กำลังใจบริษัทฯ แก้ไขให้แล้วเสร็จเพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน ซึ่งจากการลงพื้นที่ของทีม ก.ล.ต. ก็เห็นว่าทีมงานเร่งแก้ไขปัญหากันอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าด้วยความสามารถของคนรุ่นใหม่ซึ่งมีฝีมือและมีความตั้งใจ จะสามารถแก้ไขระบบได้เสร็จก่อนกำหนดเวลา”
นอกจากนี้นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคลได้ฝากถึงผู้ที่สนใจลงทุนด้วยว่า ให้ศึกษาข้อมูลให้เข้าใจลักษณะความเสี่ยงและผลตอบแทนของคริปโทเคอร์เรนซี่ และอย่าหลงเชื่อคำโฆษณา ที่ชักชวนลงทุนโดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง, สามารถรับความผันผวนสูงได้, ยอมรับการสูญเสียของเงินลงทุนได้ และลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้เท่านั้น
ส่วนเรื่องที่ว่าเว็บเทรด Bitkub จะกลับมาเปิดให้บริการเมื่อไหร่นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเร็ว ๆ นี้ทางทีมงาน Bitkub จะออกหนังสือแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับการปิดปรับปรุงระบบเพื่อพัฒนาโครงสร้างของ Bitkub เพื่อชี้แจงถึงการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและแผนดำเนินการต่อจากนี้
สำหรับแผนการดำเนินการล่าสุดนั้น Bitkub ได้ออกมาประกาศเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาว่า แอพเทรดคริปโตของพวกเขานั้นจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติตอนเวลา 14:30 ของวันนี้ อย่างไรก็ตาม หลังการเปิดกลับมาให้บริการในช่วง 30 นาทีแรกนั้น ทางพวกเขาเผยว่าจะปิดให้บริการซื้อขายก่อน และหลังจากนั้นถึงจะเริ่มเปิดให้เทรดใหม่
ที่มารูปภาพจาก : thaipublica.org
อ้างอิงข้อมูลแหล่งข่าวจาก : efinancethai