ค่าธรรมเนียมเฉลี่ยของการทำธุรกรรมในเครือข่ายได้แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ที่ 17.5 ดอลลาร์ต่อธุรกรรมเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ทำให้แพลตฟอร์มการซื้อขายบางแห่งได้หยุดการถอน Ether และ ERC-20
แพลตฟอร์มการซื้อขายของญี่ปุ่นอย่าง Liquid ได้หยุดระงับการถอน Ether (ETH) ชั่วคราวไปแล้วเช่นกัน เนื่องจากราคา Altcoins ดังกล่าวได้ทำจุดสูงสุดตลอดกาล (all-time high) ไปล่าสุด
โดยเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ Liquid ได้ประกาศระงับการถอนเงินสำหรับ ETH และบางโทเค็น อย่าง ERC-20 เนื่องจากต้นทุนการทำธุรกรรมหรือค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมในเครือข่ายได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยทาง Liquid ได้กล่าวว่า “ จะมีการกลับมาให้บริการอีกครั้ง เมื่อค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมในเครือข่ายได้กลับสู่ระดับปกติ ส่วนสกุลเงินดิจิตอลเข้ารหัสอื่น ๆ ทั้งหมดยังให้บริการตามปกติ”
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ราคา ETH ได้ทำจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ $1,600 หลังจากที่เพิ่มขึ้นเกือบ 20% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา การปรับตัวขึ้นของราคาอย่างต่อเนื่องได้ส่งผลให้ต้นทุนในการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยต้นทุนดังกล่าวได้ทำระดับสูงสุดใหม่ในประวัติศาสตร์
จากข้อมูลของ YCharts แสดงให้เห็นว่า ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมในเครือข่ายเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาอยู่ที่ $17.5 ต่อธุรกรรม
และตามที่ได้รายงานไปก่อนหน้านี้ ค่าธรรมเนียมเริ่มมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในต้นเดือนมกราคม 2021 เมื่อ Ethereum ทำลายสถิติก่อนหน้านี้เหนือระดับ 1,400 ดอลลาร์ได้
ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่พุ่งสูงขึ้นล่าสุดได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อแพลทฟอร์ม Decentralized Finance ( DeFi) หลายตัว โดยค่าธรรมเนียมธุรกรรม DeFi บางแห่งพุ่งสูงกว่า 1,000 ดอลลาร์ ส่วนค่าธรรมเนียมในเว็บเทรดแบบ Decentralized เช่น Uniswap และ SushiSwap พุ่งขึ้นสู่ระดับที่ผิดปกติระหว่าง $40 ถึง $75 ผู้ใช้ DeFi ที่มองหาค่าธรรมเนียมที่ต่ำลงได้เปลี่ยนมาใช้ Ethereum ทางเลือก อย่างเช่น Flamingo
Kain Warwick ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม Synthetix ได้แสดงความมั่นใจว่าค่าธรรมเนียมของ ETH ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ปริมาณการทำธุรกรรมสูงขึ้นด้วย:
“แน่นอนว่าเราต้องดูพฤติกรรมของผู้ใช้งานก่อนว่าเป็นอย่างไร เมื่อค่าธรรมเนียมไม่ได้ลดลง ซึ่งผมมองว่าปริมาณการทำธุรกรรมจะเพิ่มขึ้นจากจุดนี้ แต่ตอนนี้คุณทำอะไรไม่ได้มากนอกจากนั่งกดปุ่มสร้างเหรียญเพิ่ม”
ในขณะที่เขียนปริมาณการทำธุรกรรมของ Ether มีมูลค่ากว่า 44 พันล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นจาก 37,000 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 28 มกราคม สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองมีการซื้อขายอยู่ที่ 1,639 ดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นถึง 6.3% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา