เมื่อเร็ว ๆ นี้นาย Michael Saylor ซีอีโอของ MicroStrategy ได้ออกมากล่าวอธิบายว่าเหตุใดบริษัทของเขาจึงได้ตัดสินใจลงทุนใน Bitcoin แทนที่จะเป็นสินทรัพย์อื่น ๆ อย่างเช่น ทองคำ, อสังหาริมทรัพย์หรือสินค้าโภคภัณฑ์
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Anna Irrera ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว Reuters นาย Saylor ได้กล่าวว่า :
“ผลตอบแทนจากทองคำไม่ได้ฟังดูน่าสนใจเท่ากับ Bitcoin เพราะโดยพื้นฐานแล้วในโลกของคริปโต คุณสามารถสร้างทองคำดิจิทัลได้และ Bitcoin ก็คือ ทองคำดิจิทัล”
อ้างอิงตามคำพูดของเขา หากนักลงทุนกำลังมองหาสินทรัพย์ที่สามารถเก็บรักษามูลค่าได้ “การถือครอง Bitcoin จะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากที่สุด” โดย Saylor ชี้ให้เห็นว่าตราสารอนุพันธ์หรือสินค้าโภคภัณฑ์นั้นไม่เหมาะสำหรับบริษัทของเขา เนื่องจาก MicroStrategy ไม่ใช่บริษัทด้านการเทรด ดังนั้นบริษัทจึงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความผันผวนในระยะสั้น
Saylor ชี้ให้เห็นว่า บริษัทของเขามีกรอบเวลาในระยะยาวและเมื่อมองไปที่ BTC ราคาของสกุลเงินดิจิทัลนั้น “แทบไม่มีความผันผวนอยู่เลย” ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เขากล่าวว่านักลงทุนควรมีเวลาอย่างน้อยสี่ปีเพื่อทำให้ความผันผวนเหล่านั้นหายไป
สำหรับ Bitcoin เขากล่าวว่า มันเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในสภาพแวดล้อมยุคปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเขายอมรับว่าในเดือนมีนาคม 2020 เขาแทบไม่เห็นคุณค่าของมันเลย แต่สิ่งต่าง ๆ ก็เริ่มเปลี่ยนไป เนื่องจาก MicroStrategy ได้มีการพิจารณาแล้วว่า Bitcoin เป็นวิธีแก้ปัญหาการปรับลดค่าเงินและอัตราเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมด้วยว่า เหรียญคริปโตเบอร์หนึ่งของโลกสามารถทำหน้าที่เป็นตัวเก็บรักษามูลค่าสำหรับองค์กรใด ๆ ทั้งภาครัฐหรือเอกชน เนื่องจากมันเป็น “วิธีการแก้ปัญหาในเชิงตรรกะ”
เป็นที่น่าสังเกตว่าการซื้อ Bitcoin นั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ของบริษัทไปแล้วในปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้บริษัทเข้าซื้อ Bitcoin ด้วยเงินราว ๆ 1.145 พันล้านดอลลาร์หรือประมาณ 71,079 BTC แต่ตอนนี้มูลค่าทั้งหมดอยู่ที่มากกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์