<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

6 เหรียญคริปโต ที่อาจเปลี่ยนชีวิตของนักลงทุนไปตลอดกาลในปีนี้ อ้างอิงจากผู้เชี่ยวชาญ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักเทรดคริปโตชื่อดัง Austin Arnold กำลังจับตาดูเหรียญคริปโต 6 ตัวนี้อย่างใกล้ชิด โดยเขาเชื่อว่าเหรียญเหล่านี้เป็นการลงทุนที่ดีที่สุดในปี 2021

ในวิดีโอ YouTube ตอนใหม่ล่าสุด Austin ได้บอกกับผู้ติดตามทั้ง 413,000 คนของเขาว่า ในขณะนี้เขามีความมั่นใจในโปรโตคอลการจัดทำดัชนี The Graph (GRT) เป็นอย่างมาก ซึ่งเปิดตัวเครือข่าย mainnet ไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาและกำลังขยายบริการไปยังบล็อกเชนตัวอื่น ๆ เช่น Bitcoin และ Polkadot

“เรารู้ดีว่าหาก Ethereum กลายมาเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของโลก เราคงต้องการบางอย่างเช่น The Graph เพื่อช่วยสืบค้นข้อมูลทั้งหมดที่มีบนบล็อกเชน”

สำหรับโปรเจกต์ตัวที่สองที่ Arnold เชื่อว่ามันมีแนวโน้มที่ดีคือ Ren (REN) ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายโอนสินทรัพย์คริปโตข้ามเครือข่ายบล็อกเชนได้ Arnold ได้อ้างถึงข้อมูลของ Santiment ที่เผยว่า กลุ่มเจ้ามือกำลังเก็บสะสม REN กันมากขึ้น ซึ่งนี่อาจเป็นสัญญาญที่บ่งบอกแล้วว่า ราคาของอาจจะมีการปรับตัวพุ่งขึ้นอีกครั้ง

สำหรับโปรเจกต์ตัวถัดไป Arnold ได้แนะนำให้จับตาดู Manta Network เอาไว้ให้ดี ซึ่งมันเป็นเว็บเทรดแบบ Decentralize ที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวและกำลังเตรียมที่จะเปิดตัวบนเครือข่าย Polkadot Manta Network โดยโปรเจกต์ดังกล่าวนั่นเพิ่งระดมทุนได้กว่า 1.1 ล้านดอลลาร์ในรอบ seed round นำโดยบริษัทการลงทุนด้านบล็อกเชนระดับโลกอย่าง Polychain Capital

อีกเหรียญหนึ่งที่อยู่ในลิสต์ของ Arnold ก็คือ Voyager Token (VGX) โบรกเกอร์คริปโตที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมในการเทรด โดยเขาอ้างถึงการประกาศของ Voyager ที่ระบุว่า พวกเขามีแผนที่จะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่นบัตรเดบิตและบัตรเครดิต, ผลิตภัณฑ์มาร์จิ้นและแอปพลิเคชันบนเดสก์ท็อป ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ Arnold ยังมีความมั่นใจในแพลตฟอร์มสัญญา Smart contract ที่หลายคนอาจยังไม่รู้จักเช่น Elrond (EGLD) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวแอปกระเป๋าเงินและการชำระเงิน Maiar ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้และบริษัทคาดหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยผลักดันการเติบโตของผู้ใช้และช่วยให้พวกเขากลายเป็นคลื่นลูกใหม่ในกลุ่มผู้ใช้คริปโต

สำหรับโปรเจกต์สุดท้ายในรายชื่อของ Arnold ก็คือ yearn.finance (YFI) โดยเขาได้เน้นย้ำให้เห็นถึงการตัดสินใจของครั้งใหญ่ของโปรเจกต์ที่จะสร้างเหรียญ YFI ขึ้นมาเพิ่มอีก 200 ล้านเหรียญ ชุมชน YFI ซึ่งเป็นเจ้าของโทเค็นกำกับดูแลส่วนใหญ่ได้ตัดสินใจร่วมกันแล้วว่า พวกเขาจะสร้างเหรียญให้กับตัวเองมากขึ้น Arnold คาดว่าการตัดสินใจในครั้งนี้มีความหมายต่อระบบนิเวศของ Yearn เป็นอย่างมากและสิ่งนี้จะทำให้ตัวโปรเจกต์นั้นแตกต่างจาก Bitcoin โดยสิ้นเชิง

“Yearn มักถูกนำมาเปรียบเทียบกับ Bitcoin อยู่เสมอในแง่ที่ว่า ‘พวกมันทั้งสองมีอุปทานเหรียญที่ค่อนข้างต่ำเช่น Bitcoin มีอุปทานจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญและ YFI มีอุปทานจำนวนเพียง 30,000 เหรียญเท่านั้น’ แต่นี่แสดงให้เห็นแล้วว่าทำไม Bitcoin ถึงมีโครงสร้างพื้นที่แตกต่างไปจากโปรเจกต์อื่น ๆ และมันมีวิธีการกระจายอำนาจอย่างไรเมื่อเทียบกับ Yearn”