ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2020 ปริมาณเหรียญ Bitcoin (BTC) บนแพลตฟอร์มซื้อขายยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง อ้างอิงข้อมูลจาก Glassnode ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าผู้ถือ Bitcoin ระยะยาวกำลังเพิ่มมากขึ้น โดยได้คาดการณ์กันว่าส่วนมากนั้นเป็นนักลงทุนสถาบันที่มีความตั้งใจจะถือเหรียญในระยะยาว
ในขณะเดียวกันสำนักข่าว Bloomberg ยังได้รายงานด้วยว่า บริษัท Cointerpoint Global ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนในเครือของ Morgan Stanley กำลังพิจารณาว่าตลาดคริปโตนั้นเหมาะสำหรับเข้าทำการลงทุนหรือไม่
เช่นเดียวกับธนาคาร JPMorgan Chase ที่กล่าวว่าอาจเปิดให้บริการเกี่ยวกับ Bitcoin ในเร็ว ๆ นี้ รองประธานบริษัทนาย Daniel Pinto เชื่อว่าในอนาคตผู้จัดการทรัพย์สินส่วนใหญ่จะต้องกระโดดเข้าหา Bitcoin อย่างไรก็ตามมูลค่าตลาดของ Bitcoin นั้นยังไม่มากเพียงพอที่จะเข้าลงทุนในตอนนี้ แต่เขาก็ยอมรับว่า Bitcoin อาจเติบโตเพิ่มขึ้นไปอีกในอนาคต
สำนักข่าว Cointelegraph จึงรวบรวม 5 เหรียญที่น่าติดตามในช่วงนี้ไว้
Bitcoin (BTC)
หลังจากที่ราคา Bitcoin ทะลุแนวต้าน $41,900 ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ราคา Bitcoin ยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถทำระดับราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับ $49,700 ได้เมื่อวานนี้ และมีการร่วงลงปรับฐานราคาในช่วงเช้าที่ผ่านมาโดยปัจจุบันมีราคาซื้อขายอยู่ที่ระดับประมาณ $46,000 ถึง $47,000
ซึ่งล่าสุดได้มีการคาดการณ์กันว่าราคา Bitcoin อาจไม่สามารถผ่านแนวต้าน $50,000 ไปได้อย่างง่าย ๆ แต่หากสามารถผ่านไปได้อาจพุ่งต่อไปได้ถึง $60,000 แต่ในขณะเดียวกัน หากราคาร่วงลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วันที่ระดับ $41,300 อาจทำให้ราคาร่วงลงไปถึงระดับ $36,000 และ $28,850 ได้
ราคา Bitcoin ยังคงน่าติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไปเพราะจากที่ราคาพุ่งขึ้นสูงอย่างรุนแรงในครั้งนี้อาจทำให้มีการปรับฐานราคาที่รุนแรงเกิดขึ้นก็เป็นได้
Bitcoin Cash (BCH)
ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาราคา Bitcoin Cash พุ่งทะลุแนวต้านที่ระดับ $539 และพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องทะลุแนวต้าน $631 ในวันถัดมา จนถึงเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาทำราคาสูงสุดในรอบปีเหนือระดับ $750 ก่อนจะร่วงกลับลงมาเช่นเดียวกับราคา Bitcoin
จากแนวโน้มราคาล่าสุดทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าแนวต้านอยู่ที่ระดับประมาณ $730 และหากสามารถฝ่าแนวต้านดังกล่าวไปได้อาจทำให้ราคาพุ่งสูงถึง $900 แต่นักลงทุนก็ควรระมัดระวังเนื่องจากล่าสุดนั้นดัชนี RSI บ่งชี้ถึงกำลังซื้อที่มากเกินไป (Overbought) อีกด้วย
โดยหากราคาร่วงกลับลงมาทะลุแนวรับ $631 อาจทำให้ราคาร่วงลงต่อไปถึงแนวรับที่ $539 ได้
EOS
ราคาของ EOS นั้นค่อนข้างนิ่งและมีการซื้อขายส่วนใหญ่อยู่ที่ระดับราคา $2.00 ถึง $4.00 และล่าสุดได้พุ่งทะลุแนวต้าน $5.40 เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแต่ไม่สามารถรักษาระดับราคาดังกล่าวไว้ได้ ทำให้ราคาร่วงกลับลงมาปรับฐานและล่าสุดมีราคาซื้อขายอยู่ที่ระดับประมาณ $4.50
โดยหากราคาสามารถดีดกลับขึ้นไปได้ก็จะต้องไปเผชิญแล้วต้านที่ระดับ $5.48 และ $5.61 แต่หากร่วงทะลุแนวรับที่ $4.50 อาจทำให้ราคากลับไปซื้อขายกันในช่วง $2 ถึง $4 อีกก็เป็นได้
Monero (XMR)
ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาราคา Monero สามารถฝ่าแนวต้านที่ระดับ $190 ทำให้ดัชนี RSI พุ่งขึ้นมาระดับหนึ่ง บ่งชี้ว่าเป็นช่วงราคาขาขึ้น
ในขณะเดียวกันก็มีกำลังขายเกิดขึ้นสูงที่ช่วงราคา $250 ทำให้มีแนวต้านเกิดขึ้นอยู่ที่ช่วงราคาดังกล่าว และหากกำลังซื้อสามารถเอาชนะกำลังขายที่เกิดขึ้นได้ อาจทำให้ราคาพุ่งต่อไปยังระดับ $300
แต่ในขณะเดียวกันหากร่วงกลับลงมาทะลุแนวรับที่ $215 ก็อาจทำให้ราคาร่วงต่อไปจนถึงระดับ $190 ได้เช่นกัน
Tezos (XTZ)
ราคา Tezos สามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ $4.49 ได้เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และล่าสุดได้สร้างระดับราคาสูงสุดใหม่เหนือระดับ $5.60 ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา
ซึ่งราคาก็ได้ร่วงกลับลงมาเพื่อสะสมโมเมนตัมที่จะพุ่งขึ้นใหม่อีกครั้ง โดยมีแนวรับอยู่ที่ระดับ $4.49 โดยหากราคาสามารถดีดขึ้นไปจากจุดนี้ได้จะต้องไปเผชิญกับแนวต้านที่ระดับ $5.60 อีกครั้งซึ่งหากสามารถทะลุแนวต้านดังกล่าวไปได้อาจทำให้ราคาสามารถพุ่งไปถึงระดับ $7.15
อย่างไรก็ตามหากราคาร่วงทะลุแนวรับ $4.49 อาจทำให้โมเมนตัมที่พยายามสะสมขึ้นมาใหม่ไม่เพียงพอที่จะทะลุแนวต้าน $5.60 ไปได้
ที่มา: Cointelegraph