<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้เชี่ยวชาญเผยดัชนีความกลัวและความโลภมีความสอดคล้องกับเครือข่าย Bitcoin อย่างน่าตกใจ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักเทรดที่อยู่ในตลาดคริปโตมานานจะรู้ดีว่าดัชนีความกลัวและความโลภเป็นปัจจัยหลักที่คอยขับเคลื่อนตลาดคริปโตโดยรวมทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ Bitcoin 

อย่างไรก็ตามล่าสุดมีการค้นพบความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดบนเครือข่าย Bitcoin ซึ่งดูเหมือนว่าจะตรงกับดัชนี “ความกลัวและความโลภ” อย่างน่าตกใจ และนี่คือเหตุผลที่การค้นพบนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก

ความกลัวและความโลภปรากฏในผลลัพธ์ของธุรกรรมที่ไม่ได้ใช้จ่าย

เนื่องจากมันไม่มีสินทรัพย์ใดที่เหมือนกับ Bitcoin รวมถึงวิธีการทำงานของเครือข่ายและฐานผู้ใช้งาน ด้วยเหตุนี้เครื่องมือบางอย่างจึงได้รับการออกแบบมาเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเครือข่ายของ Bitcoin โดยเฉพาะ รวมถึงจำนวนธุรกรรมทั้งหมด, จำนวนเงินที่ใช้จ่ายและธุรกรรมที่ไม่ได้นำไปใช้จ่าย (UTXO)

ในฐานะสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรไม่มีอะไรที่เหมือนกับ Bitcoin การเปลี่ยนแปลงของความเชื่อมั่นมักส่งผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง ด้วยเหตุนี้จึงมีการพัฒนาเครื่องมือเพื่อประเมินหาความกลัวหรือความโลภในตลาด

ที่น่าสนใจก็คือ นักวิเคราะห์คริปโตรายหนึ่งค้นพบว่า เปอร์เซ็นต์ของ UTXO ในผลกำไรนั้นตรงกับดัชนีความกลัวและความโลภอย่างสมบูรณ์

ดังที่เห็นในภาพ จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดในดัชนีความกลัวและความโลภแต่ละจุดดูสอดคล้องกับข้อมูล UTXO อย่างน่าตกใจ  ดังนั้นข้อมูลเหล่านี้จึงอาจมีประโยชน์สำหรับนักเทรดที่ต้องการหาจุดสูงสุดของเทรนด์แนวโน้มขาขึ้นในปัจจุบัน

ดัชนีความกลัวและความโลภเปิดตัวในปี 2018 ในขณะที่ตลาดขาลงเริ่มต้นขึ้นไม่นานและมีเพียงไม่กี่ครั้งที่ดัชนีนี้มาถึงจุดความโลภสุดขีด (Extreme Greed)

เมื่อ Bitcoin ได้เข้าสู่ช่วงความโลภในปี 2019 การกลับตัวของราคาก็ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่นั้นมาราคา Bitcoin เริ่มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามดัชนีนี้

การใช้ข้อมูล UTXO ที่สอดคล้องกับดัชนีความกลัวและความโลภนั้นมีโอกาสช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าใจได้ว่า ความกลัวและความโลภเกิดขึ้นในตลาดขาขึ้นก่อนหน้านี้ได้อย่างไร

ในปี 2013 มีสัญญาณความโลภที่สำคัญปรากฏขึ้นสองครั้งและตามมาด้วยตลาดช่วงขาลงจนถึงปี 2016 และในปี 2019 ตลาดขาขึ้นดำเนินไปเกือบหนึ่งปีเต็ม โดยปล่อยสัญญาณความโลภค้างบนกราฟอยู่อย่างนั้น

ในปี 2017 มีสัญญาณความโลภเกิดขึ้นทั้งหมด 5 ครั้ง  หลังทำยอดสามเหลี่ยมสองยอด แต่ในรอบนี้กลับมียอดสามเหลี่ยมสามเหลี่ยมถึงสามยอด และมีสัญญาณความโลภเกิดขึ้นเพียงแค่จุดเดียวเท่านั้น ซึ่งนั้นหมายความว่าราคา Bitcoin อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกจนกว่าสัญญาณความโลภจะครบ 4 ครั้ง และตามมาด้วยตลาดขาลง

ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ แต่กลับกันถ้าหากดัชนีความกลัวและความโลภเริ่มลดลงอีกครั้งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นี่อาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้แล้วว่าตลาดขาลงรอบใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว