ตามรายงานของ DappRadar ระบุว่า ยอดขาย NFT จากแพลตฟอร์มสามอันดับแรกนั้นเติบโตเพิ่มขึ้นแตะระดับ 342 ล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นเกือบ 400% จาก 71 ล้านดอลลาร์ในเดือนก่อน
แพลตฟอร์ม NBA Top Shot นั้นครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด คิดเป็น 67% ของการทำธุรกรรม NFT ทั้งหมด ตามมาด้วย OpenSea ตลาดของสะสมดิจิทัลและ CryptoPunks ซึ่งเป็นตลาดของสะสมดิจิทัลที่ถูกรันอยู่บน Ethereum Blockchain
ค่าธรรมเนียม Gas ที่เพิ่มสูงขึ้นบนเครือข่าย Ethereum ได้ทำให้โครงการ DeFi และ NFT หลายโครงการต่างพากันย้ายออกจากแพลตฟอร์มในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้จ่ายธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่น้อยลง โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ Binance Smart Chain ได้แซง Ethereum ในแง่ของวอลุ่มของการทำธุรกรรมและจำนวนกระเป๋าเงินใช้งานที่ไม่ซ้ำกัน นอกจากนี้รายงานยังได้พูดถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของโครงการ NFT เลียนแบบหลายโครงการบน Binance Chain เช่น Binance Punks และ Bashmarks อีกด้วย
แม้จะมีค่าธรรมเนียม Gas ที่ค่อนข้างแพง แต่ข้อมูลสถิติจาก CryptoSlam แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ NFT ที่ขายดีที่สุด 7 อันดับแรกของเดือนที่แล้วยังคงรันอยู่บน Ethereum นอกเหนือจาก NBA Top Shot ที่ใช้ Flow blockchain และอีกสองรายการที่เหลือถูกรันอยู่บน WAX
เป็นที่สังเกตว่า NFT ที่เติบโตเร็วที่สุดใน 10 อันดับแรกนั่นคือ CryptoKitties ซึ่งเริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง หลังยอดขายแบบเดือนต่อเดือนเพิ่มขึ้นกว่า 1,300%
NFT ตัวล่าสุดที่ติดโผอยู่ในรายชื่อยอดขาย 10 อันดับแรกของ CryptoSlam ก็คือ ซีรี่ส์ Street Fighter II จากค่าย Capcom โดยปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 8 และมียอดขายรวมกว่า 1.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์
สำหรับการขาย NFT ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ได้เกิดขึ้นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เมื่อ Beeple Crossroads NFT ถูกขายไปในราคา 6.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการทำลายสถิติใหม่ที่สูงกว่าสถิติเดิมถึง 100 เท่า
และเมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมามีการทำลายสถิติยอดขายใหม่ของ NFT อีกครั้ง เมื่อศิลปินเพลงอิเล็กทรอนิกส์ 3LAU ได้ขาย NFT รวมมูลค่ากว่า 11.6 ล้านดอลลาร์จากเว็บไซต์ของเขาเอง และในไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ก็มีนักดนตรีชื่อ Grimes ทำยอดขาย NFT ได้กว่า 5.8 ล้านดอลลาร์ภายใน 20 นาที
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่ประทับใจกับการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ NFT โดยเมื่อวันที่ 2 มีนาคมนาย Charlie Lee ผู้ก่อตั้ง Litecoin ได้ออกมาเปรียบเทียบความนิยม NFT ว่าเป็นเหมือนกับฟองสบู่ ICO ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2017 ซึ่งเขาเชื่อว่าในที่สุดจะมี NFT เหลือเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่จะมีมูลค่าจริง ๆ”