Ripple Labs กล่าวในการยื่นฟ้องครั้งล่าสุดว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ไม่ได้มีการ “ประกาศอย่างเป็นธรรม” ว่าธุรกรรมของ XRP ละเมิดกฎหมาย และในเวลาต่อมาสำนักงาน ก.ล.ต. อ้างว่า XRP เป็นสัญญาการลงทุน
บริษัท Ripple ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในซานฟรานซิสโกได้เผยแพร่เอกสารทางกฎหมาย 100 หน้าที่ยื่นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม เพื่อตอบสนองต่อการร้องเรียนที่มีการแก้ไขครั้งแรกของ SEC ว่า “ก่อนที่จะมีการยื่นฟ้องของ SEC ผู้เข้าร่วมตลาดจำนวนนับไม่ถ้วนทำธุรกรรมใน XRP เป็นเวลาหลายปี โดยเชื่อว่าไม่ใช่สัญญาการลงทุน”
การยื่นฟ้องล่าสุดของ Ripple เป็นการตอบสนองต่อข้อร้องเรียนที่มีการแก้ไขของ SEC หลังจากการประชุมก่อนการพิจารณาคดีเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งคดีนี้กำลังได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดจากอุตสาหกรรม เนื่องจากอาจมีผลกระทบกับนักลงทุน XRP และเป็นแบบอย่างทางกฎหมายสำหรับสกุลเงินดิจิทัลอื่น
ข้อพิพาททางกฎหมายของ XRP
ประเด็นสำคัญของคดีนี้คือ การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ XRP ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิมสำหรับแพลตฟอร์ม Ripple ถือว่าเป็น“ สัญญาการลงทุน” (investment contract) ดังนั้นหลักทรัพย์ต้องมีการจดทะเบียนภายใต้มาตรา 5 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ปี 1933
อดีตผู้อำนวยการด้านการเงินของ SEC อย่าง William Hinman ได้กล่าวเมื่อเดือนมิถุนายน 2018 ว่า bitcoin และ ether ก็ไม่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นหลักทรัพย์ ซึ่ง Ripple ได้เข้าใจถ้อยความเหล่านั้นว่าทาง SEC “ จะอนุญาตให้มีการขายสกุลเงินเสมือนจริง ตามสภาวะตลาดปัจจุบันสำหรับ XRP”
Ripple ได้แย้งว่า ไม่ได้มีการแจ้งอย่างเป็นธรรม โดยเฉพาะเมื่อแพลตฟอร์มการซื้อขายแห่งหนึ่งได้พบปะกับ SEC ในปี 2019 โดยมีความตั้งใจที่จะเข้าจดทะเบียน XRP และแม้ว่า SEC จะถูกถามก็ไม่ได้ระบุว่า XRP ถือเป็นหลักทรัพย์
“ ทาง ก.ล.ต. ยังมีการประชุมกับบริษัทอื่น ๆ หลายแห่งที่ทำการซื้อขายหรืออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับกิจกรรมใน XRP และในการประชุมดังกล่าว รวมถึงเมื่อเร็ว ๆ นี้ในปี 2019 ทาง ก.ล.ต. ไม่ได้บอกบริษัท เหล่านั้นว่า XRP เป็นหลักทรัพย์หรือธุรกรรมใน XRP ซึ่งจะอยู่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง” Ripple ยังระบุอีกว่า “ด้วยเหตุนี้บริษัทเหล่านั้นจึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการใช้งานสำหรับ XRP และมีส่วนร่วมในการขยายการใช้งาน XRP เป็นสกุลเงินเสมือนจริง จากการรายงานของ SEC”
Stuart Alderoty ที่ปรึกษาทั่วไปของบริษัท Ripple กล่าวใน Twitter วันนี้ว่า “เราพร้อมที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุมของ ก.ล.ต. กับผู้เข้าร่วมตลาดรายใหญ่ของ XRP เพื่อขอคำแนะนำ แต่ไม่เคยได้รับการชี้แจ้งว่า XRP txns จะอยู่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง
Jake Chervinsky ที่ปรึกษาทั่วไปของบริษัท Compound ซึ่งเป็นโปรโตคอลการให้กู้ยืมแบบ decentralized กล่าวใน twitter ว่า ยังคงต้องรอดูว่ากลยุทธ์การป้องกันทางกฎหมายนี้จะคลี่คลายอย่างไร “ เราไม่ได้ใช้มันมานานมากแล้ว ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้ช่วยป้องกันการดำเนินการบังคับใช้ของ ก.ล.ต. เท่าใหร่นัก”
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ยื่นฟ้อง Ripple ในข้อหาขาย XRP อย่างผิดกฎหมาย โดยมีการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทางด้าน Chris Larsen ประธานบริหารของ Ripple และ Brad Garlinghouse ซีอีโอของบริษัทเป็นจำเลยร่วมในข้อหาช่วยเหลือ และสนับสนุนการละเมิดกฎหมายของ Ripple และทำกำไรส่วนตัวไปกว่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐจากการขาย XRP ที่ไม่ได้จดทะเบียน ซึ่ง Larsen ได้ดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Ripple ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2013 ถึงธันวาคม 2016
หลังจากการฟ้องร้องของ SEC แพลตฟอร์มหลายแห่งได้เพิกถอนเหรียญ XRP และ MoneyGram ซึ่งเป็นบริษัทบริการโอนเงินที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกก็ระงับการเป็นพันธมิตรกับ Ripple ด้วยเช่นกัน แต่ Ripple ยังคงได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งในบางส่วนของเอเชีย รวมถึงญี่ปุ่น
ผู้บริหารของ Ripple ควรถูกตำหนิหรือไม่?
สำนักงาน ก.ล.ต. ยังกล่าวหาว่า นาย Garlinghouse และ Larsen มีส่วนรู้เห็นในการละเมิดกฎหมายของ Ripple: “ในทุกช่วงเวลาที่มีความเกี่ยวข้องกัน ทั้ง Garlinghouse และ Larsen ต่างรู้เห็นหรือเพิกเฉยโดยประมาทว่านักลงทุน XRP มีความคาดหวังว่าจะได้รับผลกำไรจากความพยายามของ Ripple ในเหรียญ XRP” โดยทาง Ripple ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
ในสัปดาห์นี้ที่ปรึกษาของ Garlinghouse ได้ยื่นจดหมายสรุปข้อโต้แย้งที่ Garlinghouse คาดว่าจะเคลื่อนไหวเพื่อยกเลิกการยื่นฟ้องของ SEC
“ คดีนี้แสดงให้เห็นถึงการละเมิดกฎระเบียบที่ชัดเจนและเรียบง่าย” จดหมายดังกล่าวซึ่งเน้นย้ำว่า การยื่นฟ้องที่มีการแก้ไขของสำนักงาน ก.ล.ต. ล้มเหลวในการกล่าวหาว่า บริษัทมีเจตนาในการกระทำผิด ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นของการยื่นฟ้อง นอกจากนี้สำนักงาน ก.ล.ต. ยังล้มเหลวในการกล่าวหาว่า บริษัทประมาทเลินเล่อ และเพิกเฉย
ทางสำนักงาน ก.ล.ต. พุ่งเป้าไปที่นาย Garlinghouse ว่าเขาละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ทั้งการส่วนตัว และการขาย XRP “
จดหมายระบุว่า มีความตึงเครียดในการกำหนดความรับผิดส่วนบุคคลต่อผู้บริหารอย่างนาย Garlinghouse เพราะเขาเพียงแค่ทำงานของเขา โดยที่เข้าใจว่า การกระทำของเขาที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการใช้ดุลพินิจในการฟ้องร้องในทางที่ผิด
ฝ่ายจำเลยอย่าง Garlinghouse ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การร้องเรียนมีการแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งล้มเหลวในการกล่าวหาเรื่องการขายและการเสนอให้ XRP ดำเนินการในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นจึงอยู่ภายใต้ขอบเขตของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์
“ ความจริงแล้ว ยอดขาย XRP ส่วนใหญ่ของเขามาจากอัตราแลกเปลี่ยน และธุรกรรมดังกล่าวไม่ได้ละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์
ในวันเดียวกันที่ปรึกษาของ Larsen ได้ยื่นจดหมายโดยระบุว่า สำนักงาน ก.ล.ต. ล้มเหลวในการกล่าวหาว่า Larson รู้หรือประมาทว่าธุรกรรม XRP เป็น “สัญญาการลงทุน” และกิจกรรมของ Ripple เป็น “ไม่เหมาะสม” เช่นเดียวกับ Garlinghouse Larsen ที่กำลังโต้เถียงว่าคดีนี้อยู่นอกเขตอำนาจศาลของศาล
Gary Gensler จะเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่?
จากจดหมายร่วมของ Ripple และสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ส่งถึงผู้พิพากษาเมื่อเดือนที่แล้วแสดงให้เห็นว่า โอกาสในการยุติคดีไม่น่าเป็นไปได้ในขณะนี้ แต่ตำแหน่งผู้บริหารของ ก.ล.ต. ที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งในขณะนี้ Gary Gensler เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธาน ก.ล.ต. ในรัฐบาลประธานาธิบดี Biden ขณะนี้กำลังรอการยืนยันจากวุฒิสภา ซึ่งสิ่งนี้อาจทำให้ท่าทีของ ก.ล.ต. ที่มีต่อสกุลเงินดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงได้
จากคำให้การของเขาต่อหน้าคณะกรรมการการธนาคารของวุฒิสภาเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Gensler กล่าวว่า “Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ได้นำความคิดใหม่มาสู่การชำระเงินและการบูรณาการทางการเงิน และเขายังได้หยิบยกประเด็นให ม่เกี่ยวกับการคุ้มครองนักลงทุนที่เรายังต้องสนใจอีกด้วย”
Gensler ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้คำแนะนำและความชัดเจนเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับสำนักงาน ก.ล.ต.”
Ripple นำระบบ private ledger มาใช้สำหรับ CBDC
แม้ว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้ทางกฎหมายระหว่าง Ripple กับ SEC ยังคงมีความไม่แน่นอน แต่ตอนนี้ Ripple กำลังผลักดัน“ XRP Ledger” (XRPL) ซึ่งเป็นทิศทางใหม่สำหรับการชำระเงินดิจิทัลทั่วโลก
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Ripple ได้ประกาศว่า จะนำบัญชีแยกประเภทส่วนตัวมาใช้สำหรับธนาคารกลางในการออกและจัดการสกุลเงินดิจิทัล
จากบล็อกโพสต์ของ Ripple ธนาคารกลางต่างต้องการความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรม และการควบคุมสกุลเงินของตนมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะสร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ใน private ledger มากกว่า public ledger โดยความสามารถในการทำงานร่วมกัน – ความสามารถในการเชื่อมต่อกับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินทั่วโลกที่มีอยู่ตลอดจน CBDC และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ก็มีความสำคัญเช่นกัน
Ripple กล่าวว่า CBDC Private Ledger ซึ่งใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเดียวกับ XRPL นั้นสร้างขึ้นสำหรับการชำระเงินและสามารถใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ CBDCs และสกุลเงินอื่น ๆ ได้ ซึ่งช่วยลดขนาด ลดต้นทุน และใช้พลังงานน้อยลงเมื่อเทียบกับบล็อคเชนสาธารณะที่ใช้ proff-of-work
Monica Long ผู้จัดการทั่วไปของ RippleX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนาด้านเงินของ Ripple เผยว่า “แนวคิดด้าน Tokenization เป็นคุณสมบัติหลักของ XRPL มาโดยตลอด โดยมีการออกโทเค็นมากกว่า 5400+ โทเค็นนับตั้งแต่เริ่มต้น” เธอยังเผยว่า “CBDC จะใช้ private ledgers แบบใหม่ที่ทำงานคู่ขนานกับ XRPL โดยใช้ XRP เป็นสะพานเชื่อมในการทำงานร่วมกันกับสกุลเงินอื่น ๆ โดยไม่มีกำแพงล้อมรอบอีกต่อไป!”