<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ธนาคารยักษ์ใหญ่ JP Morgan ออกมาเตือนความเสี่ยงนักลงทุน Bitcoin เนื่องจากมีคนถูกล้างพอร์ทเยอะมาก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ที่ผ่านมาราคา Bitcoin ได้มีการเคลื่อนไหวเชิงลบ แม้ว่าจะมีแรงซื้อกลับมาพยุงราคาเอาไว้ไม่ให้ร่วงลงต่อก็ตาม แต่คราวนี้ Nikolaos Panigirtzoglou นักกลยุทธ์จาก JPMorgan Chase & Co. ได้แสดงความเป็นห่วงกับ Bitcoin ในตอนนี้

หากสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Bitcoin ไม่สามารถดีดตัวกลับขึ้นไปเหนือ 60,000 ดอลลาห์ได้ในเร็ว ๆ นี้ โมเมนตัมอาจพังทลายลงได้  ซึ่งนักกลยุทธ์อย่าง Panigirtzoglou เขียนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ดูเหมือนว่าเทรดเดอร์ รวมถึง Commodity Trading Advisers (CTAs) และกองทุนคริปโตจะเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังสถานะการซื้อสะสม (long position ใน Bitcoin Futures ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงการ unwind ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาด้วย

“ ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ตลาดฟิวเจอร์สของ Bitcoin เจอกับปัญหาการล้างพอร์ต (liquidation) ที่ค่อนข้างสูงในลักษณะเดียวกันกับช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ กลางเดือนมกราคม และปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา” นักยุทธศาสตร์กล่าวเพิ่มเติมว่า  “ สัญญาณโมเมนตัมได้ลดลงมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว”

JPMorgan กล่าวว่า สามครั้งก่อนหน้านี้ แรงกระตุ้นจากการไหลเข้ามาของเงินนั้นแข็งแกร่งพอที่จะทำให้ Bitcoin ทะลุระดับราคาที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เทรดเดอร์ที่ซื้อขายตามโมเมนตัมมีสถานะซื้อสะสมต่อไป 

นักกลยุทธ์กล่าวว่า “ไม่ว่าเราจะเห็นการซ้ำรอยอย่างที่เคยเกิดขึ้นหรือไม่” แต่ความเป็นไปได้ที่ราคาจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งดูเหมือนจะน้อยลง เนื่องจากราคา Bitcoin ขาดโมเมนตัม และอาจจะทำให้ราคาพลิกตัวได้ยากขึ้น นอกจากนี้การไหลของเงินเข้าสู่กองทุน Bitcoin ก็ดูอ่อนแอเช่นกัน

ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นถึง 64,870 ดอลลาร์ ในช่วงเวลาที่ Coinbase Global Inc. จดทะเบียนในตลาด Nasdaq แต่หลังจากนั้นราคาได้ลดลงกลับไปที่ 55,000 ดอลลาร์  อย่างไรก็ตามสกุลเงินดิจิทัลยังคงเพิ่มขึ้นประมาณ 90% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า นี่เป็นเพียงการปรับฐานเพื่อกลับไปเป็นขาขึ้นต่อไป หรือว่าตลาดสิ้นลงขาขึ้นแล้ว

ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นถึง 64,870 ดอลลาร์ ในช่วงเวลาที่ Coinbase Global Inc. จดทะเบียนในตลาด Nasdaq แต่หลังจากนั้นราคาได้ลดลงกลับไปที่ 55,000 ดอลลาร์  อย่างไรก็ตามสกุลเงินดิจิทัลยังคงเพิ่มขึ้นประมาณ 90% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า นี่เป็นเพียงการปรับฐานเพื่อกลับไปเป็นขาขึ้นต่อไป หรือว่าตลาดสิ้นลงขาขึ้นแล้ว

ที่มา: Bloomberg