<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CEO ของ MicroStrategy กล่าว Bitcoin จะมาเป็นใหญ่ในศตวรรษที่ 21 และจะไม่มีใครทำอะไรมันได้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นาย Michael Saylor หรือ CEO ของ MicroStrategy ได้ออกมากล่าวว่า Bitcoin นั้นกำลังจะมาเป็นใหญ่ในศตวรรษที่ 21 นี้ เมื่อเครือข่ายของมันค่อย ๆ เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ

โดยอ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ของเขากับ Kitco news นั้น นาย Saylor ได้กล่าว่า Bitcoin นั้นถือเป็นมุมมองด้านเศรษฐกิจระดับโลกในอนาคต และมองว่ามาตรฐานของ Bitcoin นั้นจะมาเป็นโซลูชันแห่งศตวรรษที่ 21 นี้ โดยมันจะมาเป็นตัวเก็บมูลค่าระดับประเทศ ที่ไม่มีมูลค่ามาจากกระแสเงินสด

“ผมคิดว่า Bitcoin นั้นจะมาเป็นตัวเก็บมูลค่าที่แข็งแกร่งในศตวรรษที่ 21 นี้ ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่ชัดเจนว่ามันได้ชนะในวงการนี้ไปแล้ว ปัจจุบันมีผู้คนประมาณ 8 ล้านคนที่ต้องการสกุลเงินที่มีความแข็งแกร่ง หากพวกเขาจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีได้ สินทรัพย์นั้นจะต้องมีลักษณะเป็นดิจิทัล และจำเป็นจะต้องไหลเข้ามาใน mobile wallet จำนวน 8 ล้านกระเป๋า”

นาย Saylor หรือ CEO ของบริษัทที่ปัจจุบันถือ Bitcoin รวมกันมูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ในงบดุลของตัวเองกล่าวว่า Bitcoin เป็นคลื่นแห่งการ disruption ซึ่งแตกต่างจาก บริษัท เทคโนโลยีรายใหญ่อื่น ๆ หรือนวัตกรรมในศตวรรษที่ผ่านมา

“Bitcoin เป็นสิ่งที่เติบโตเร็วที่สุดและมีความ disrupt มากที่สุดในโลกในขณะนี้โดยหากพูดอย่างเป็นกลาง ตลาดมันเพิ่มขึ้นจาก 0-1 ล้านล้านดอลลาร์ใน 12 ปี นั่นทำให้มันเป็นเทคโนโลยีที่ disrupt มากที่สุดในช่วงชีวิตของคุณ, ในชีวิตของผม disrupt มากกว่า Amazon, Apple, Facebook และ Google ซึ่ง disrupt มากกว่าสิ่งใด ๆ ในชีวิตของเรา”

เขายังกล่าวอีกว่ามีความเข้าใจผิดทั่วไปว่า Bitcoin ควรถูกมองว่าเป็นสกุลเงินดังนั้นจึงนำมันมาเปรียบเทียบว่าสามารถแข่งขันกับสกุลเงินของประเทศได้ โดยนาย Saylor กล่าวว่ามันมีลักษณะเป็นเหมือนกับสินทรัพย์คริปโตมากกว่า และโอกาสที่จะเกิดภัยคุกคามกับสกุลเงินรัฐบาลนั้นมีน้อยมาก ไม่เหมือนกับ stablecoin

“เมื่อคุณเข้าใจ [ว่า Bitcoin คือ] สินทรัพย์เข้ารหัสลับแล้วคุณก็เข้าใจว่ามันไม่ได้แข่งขันกับเงินดอลลาร์ [US] และยูโร [Bitcoin] แข่งขันกับทองคำและเงินและ ETF (กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน) และหุ้น…เจอโรมพาวเวลล์ (ประธานธนาคารกลางสหรัฐ) กล่าวเมื่อสองสัปดาห์ก่อนใช่แล้วมันคือทองคำดิจิทัล…

รัฐบาลขนาดใหญ่จะเริ่มกังวลกับเหรียญ Stablecoin มากกว่า เนื่องจากความสามารถในการเคลื่อนย้ายเงินหลายพันล้านยูโรในรูปแบบคริปโต หรือความสามารถในการเคลื่อนย้ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในรูปแบบคริปโต นั่นจะดึงดูดความสนใจของธนาคารเนื่องจากสกุลเงินทำให้ธนาคารและรัฐบาลมีตัวตนอยู่ได้ และพวกเขาจะกังวลเกี่ยวกับการควบคุมสกุลเงินของตน”

เมื่อถูกถามโดยตรงว่าเขาเชื่อว่าอะไรคือภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อความสำเร็จของ Bitcoin นาย Saylor กล่าวง่ายๆว่า “ผมไม่คิดว่าจะมีอย่างนั้น”

อย่างไรก็ตาม นาย Andrew Fursman ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ควอนตัมแสดงความเห็นที่ตรงข้ามกับของนาย Saylor โดยเขาเชื่อว่าวันหนึ่ง Bitcoin อาจถูกโจมตีด้วยควอนตัมเมื่อคอมพิวเตอร์ เมื่อมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“ได้รับการพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์แล้วว่าหากคุณมีอุปกรณ์ที่ดูเหมือนคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบที่ผู้คนต้องการสร้างขึ้นคุณก็จะสามารถถอดรหัสข้อมูลนี้ได้ดีกว่าที่เคยเป็นมาในอุปกรณ์แบบเดิม ๆ”

นอกจากนี้ Bitcoin ยังต้องเผชิญกับคำถามเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของกระบวนการขุด

ในสัปดาห์นี้วุฒิสภานิวยอร์กได้เปิดตัวร่างกฎหมายที่เสนอให้โรงงานขุด Bitcoin ในตอนเหนือของรัฐนิวยอร์กถูกปิดลงจนกว่าการประเมินผลกระทบทั้งหมดของกระบวนการขุดจะเสร็จสมบูรณ์